ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังแข่งขันกันเพื่อพัฒนา CBDC รับมือโลกในยุคดิจิทัล!

CBDC mBridge
Last updated:
Author
Author
Pakphum Kerdprap
Last updated:
ทำไมจึงไว้วางใจ Cryptonews
Cryptonews ได้รายงานข่าวในวงการคริปโตเคอเรนซีมานานกว่า 10 ปี ทีมงานที่เชี่ยวชาญของเรามุ่งเน้นการวิเคราะห์ตลาด เทคโนโลยีบล็อกเชน และการรายงานอย่างถูกต้องและสมดุล ครอบคลุมคริปโต บล็อกเชน และการพัฒนาในอุตสาหกรรม เรามุ่งมั่นในการให้ความโปร่งใสกับผู้อ่าน เนื้อหาบางส่วนอาจมี Affiliate Links ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่น หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มโปรดอ่านรายละเอียดในเพจ Affiliate Disclosure
CBDC

รายงานล่าสุดจาก Atlantic Council ระบุว่า ตอนนี้มี 134 ประเทศ ซึ่งคิดเป็น 98% ของเศรษฐกิจโลก กำลังศึกษาในเรื่องของสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) เพิ่มขึ้นจาก 35 ประเทศในปี 2020

นอกจากนี้ 66 ประเทศยังได้มีพัฒนาการในเรื่องนี้ไปอีกขั้น ขณะเดียวกัน Bahamas, Jamaica และ Nigeria ได้เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของพวกเขาเองแล้ว และกำลังขยายขอบเขตการใช้งานในเวอร์ชั่นสำหรับรายย่อยในประเทศของตน

ยิ่งไปกว่านั้น 44 ประเทศ ซึ่งรวมไปถึง ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ก็ได้เปิดโครงการนำร้องในการใช้งาน CBDC ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 36 ประเทศในปีที่แล้ว การเติบโตดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามทั่วโลกในการรับมือกับการใช้เงินสดที่ลดลงและความท้าทายจากสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin

จีนนำหน้าในการพัฒนา CBDC ระดับโลกด้วยหยวนดิจิทัล

หยวนดิจิทัลของจีนหรือ e-CNY กำลังทำให้จีนเป็นผู้นำในการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลระดับโลก โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการทดลองที่ใหญ่ที่สุด แต่ยังมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วอีกด้วย ภายในเวลาเพียง 1 ปี ปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้นจาก 2.53 แสนล้านดอลลาร์เป็น 9.86 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเติบโตที่น่าทึ่งอย่างมาก

การใช้งาน e-CNY ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การซื้อขายทั่วไปเท่านั้น แต่ยังแทรกซึมเข้าไปในหลายภาคส่วนสำคัญของสังคม ทั้งการศึกษา สาธารณสุข และการท่องเที่ยว นี่แสดงให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการผลักดันให้เงินดิจิทัลเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของประชาชน ความครอบคลุมนี้อาจจะช่วยให้รัฐบาลจีนเก็บข้อมูลและควบคุมการเงินได้ดียิ่งขึ้น

ในขณะเดียวกัน ประเทศ BRICS อื่นๆ เช่น บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ก็กำลังพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองเช่นกัน ซึ่งอาจจะเป็นการนำไปสู่ระบบการเงินใหม่ที่ไม่พึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ ความเคลื่อนไหวเหล่านี้อาจจะส่งผลกระทบต่อดุลอำนาจทางการเงินโลกในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากประเทศเหล่านี้สามารถสร้างระบบที่ใช้งานร่วมกันได้

โครงการ mBridge ขยายตัว สหรัฐฯ เข้าร่วมโครงการ Agorá

โครงการ mBridge กำลังเป็นที่จับตามองในวงการเงินดิจิทัลระหว่างประเทศ โดยเชื่อมโยงสถาบันการเงินจากหลายประเทศในเอเชียและตะวันออกกลาง เช่น จีน ไทย UAE ฮ่องกง และซาอุดีอาระเบีย ความน่าสนใจของโครงการนี้อยู่ที่การรวมกลุ่มประเทศที่มีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และมีแผนจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินในภูมิภาคอย่างมีนัยสำคัญ

ในขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้เข้าร่วมโครงการ Agorá ซึ่งเป็นความร่วมมือกับธนาคารกลางขนาดใหญ่อีก 6 แห่ง เพื่อพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลสำหรับธุรกรรมขนาดใหญ่ข้ามพรมแดน การเข้าร่วมนี้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ตระหนักถึงความสำคัญของเงินดิจิทัลในระดับโลก แม้ว่าจะมีความกังวลในประเด็นการออกเงินดิจิทัลสำหรับผู้ใช้งานรายย่อยภายในประเทศก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ภายในสหรัฐฯ เอง ก็ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของเงินดิจิทัล สภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างกฎหมายห้ามการออกเงินดิจิทัลสำหรับรายย่อยโดยตรง แต่ร่างนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของวุฒิสภา นอกจากนี้ เรื่องนี้ยังกลายเป็นประเด็นถกเถียงในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญและความอ่อนไหวของเรื่องนี้ในสังคมอเมริกัน

ทั้งนี้ การพัฒนาเงินดิจิทัลไม่ได้จำกัดอยู่แค่ไม่กี่ประเทศ World Economic Forum รายงานว่าเกือบทุกธนาคารกลางทั่วโลก (มากกว่า 98%) กำลังศึกษาหรือพัฒนาเงินดิจิทัลในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการวิจัย การทดลอง หรือแม้แต่การเปิดใช้งานจริง เป้าหมายหลักคือการเพิ่มการเข้าถึงเงินของธนาคารกลาง ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการเงินโลก

ข่าวเด่นห้ามพลาด

ข่าว Bitcoin
จับตา XRP: ผู้เชี่ยวชาญทำนายราคา $40!
2025-03-18 23:23:47
ข่าว Bitcoin
Bitcoin: แผนสำรองของ Trump ถูกวิจารณ์!
Somchai Wang
Somchai Wang
2025-03-18 22:53:31
Crypto News in numbers
editors
Authors List + 66 More
2M+
มีผู้ใช้งานรายเดือนทั่วโลกมากกว่า
250+
มีบทความรีวิวและคู่มือมากกว่า
8 ปี
อยู่ในตลาดมาแล้ว
70 คน
มีทีมงานนักเขียนนานาชาติกว่า