BTC และ ETH ร่วงต่อเนื่อง: ส่องผลกระทบสงครามการค้า & รายงาน CPI

Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) ยังไม่ฟื้น! นักลงทุนเตรียมรับมือผลกระทบจากอัตราภาษีที่อาจยืดเยื้อ ติดตามสถานการณ์ล่าสุดของสองคริปโตตัวท็อป
ในสัปดาห์นี้ ตลาดคริปโตเคอเรนซีต้องเผชิญกับความผันผวนอย่างหนัก โดยนักลงทุนต่างกำลังรอคอยรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อทิศทางตลาดและราคา Bitcoin รวมถึง Ether ในระยะสั้น
ราคาของ Bitcoin และ Ethereum ร่วงลงอย่างรุนแรงในช่วงเช้าของวันพุธตามเวลาเอเชีย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่อาจยืดเยื้อ โดยนักลงทุนเตรียมพร้อมรับมือกับการบังคับใช้ภาษีชุดใหม่ของประธานาธิบดี Donald Trump ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้เร็ว ๆ นี้
ตลาดคริปโต & หุ้นเผชิญแรงกดดัน: BTC, ETH และ S&P 500 ไม่รอด
ตลาดคริปโตเคอเรนซีเคลื่อนไหวสอดคล้องกับตลาดหุ้นในช่วงที่ความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้น โดยความหวังที่จะเห็นการผ่อนปรนภาษีในระยะเวลาอันใกล้เริ่มเลือนหายไป ท่ามกลางเส้นตายที่ใกล้เข้ามา
ราคา Bitcoin ร่วงลง 0.33% มาอยู่ที่ประมาณ $77,000 ในขณะที่ Ether ลดลง 1.39% เหลือเพียง $1,492 ส่วนมูลค่ารวมของตลาดคริปโตทั้งหมดลดลง 0.44% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เหลือ $2.47 ล้านล้าน แม้จะมีบางเหรียญ altcoins ที่ยังสามารถทำกำไรได้บ้างก็ตาม
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้รับผลกระทบหนักขึ้นหลังจากทำเนียบขาวยืนยันเมื่อวันที่ 8 เมษายนว่า สหรัฐฯ มีแผนที่จะเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 104% ขณะที่จีนเองก็ประกาศว่าจะตอบโต้กลับเช่นกัน
🇺🇸🇨🇳 The tariff situation showed a brief period of brightness today, as Bitcoin reached $80.2K again and the S&P 500 started up on the day by ~+4%. However, no notable positive progress has been announced on tariff negotiations. Developments of note:
📌 Bitcoin is back down to… pic.twitter.com/OrNEmJhBJH
— Santiment (@santimentfeed) April 8, 2025
ความขัดแย้งด้านภาษีไม่เพียงกระทบตลาดคริปโต แต่ยังส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ด้วย โดยดัชนีหุ้นหลักทั้งสามของสหรัฐฯ ปิดตลาดแบบติดลบเมื่อวันอังคาร และดัชนี S&P 500 ร่วงลงต่ำกว่า 5,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบหนึ่งปี
Lukman Otunuga นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจาก FXTM กล่าวว่า “ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากการที่ Trump ขู่จะเพิ่มภาษีอีก 50% และจีนไม่ยอมถอย อาจทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดพลิกกลับอย่างรวดเร็ว” เขาเสริมว่า “ตลาดกำลังเดินอยู่บนเส้นด้ายที่บางเฉียบ หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น ความเสี่ยงที่จะเกิดการขายสินทรัพย์เสี่ยงอาจเพิ่มขึ้นแบบเต็มรูปแบบ”
ตั้งแต่ Trump เปิดเผยมาตรการภาษีทั่วโลกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา มูลค่าตลาดของบริษัทในดัชนี S&P 500 ได้ลดลงถึง $5.8 ล้านล้าน ซึ่งถือเป็นการลดลงในช่วง 4 วันที่เลวร้ายที่สุดของดัชนีนี้ตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 1950 ตามข้อมูลจาก LSEG
นอกจากนี้ การสื่อสารที่ไม่แน่นอนของ Trump ก็ได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดทั่วโลก ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในทิศทางที่แน่ชัดของนโยบาย เพราะบางครั้งบอกว่านโยบายภาษีใหม่นี้จะปรับใช้ “ถาวร” แต่บางครั้งก็บอกว่ามันกระตุ้นให้เกิดการเจรจา
แม้ว่าโดยทั่วไปคริปโตเคอเรนซีจะถูกมองว่าไม่มีความสัมพันธ์กับระบบการเงินแบบดั้งเดิม แต่ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า BTC และ ETH เริ่มเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับหุ้นเทคโนโลยีและดัชนีตลาดหลักในช่วงที่ตลาดเกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในช่วงที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง
รายงาน CPI สหรัฐฯ: ปัจจัยสำคัญท่ามกลางความไม่แน่นอน
ขณะนี้นักลงทุนกำลังจับตาดูรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดี โดยตัวเลขดังกล่าวอาจมีบทบาทสำคัญในการกำหนดความเชื่อมั่นในตลาด
Marcin Kazmierczak ผู้ร่วมก่อตั้งและ COO ของ RedStone กล่าวว่า “หากตัวเลข CPI ออกมาสูงกว่า 3.4% อาจสร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่” เขาเสริมอีกว่า สถานการณ์นี้อาจนำไปสู่การขายหุ้นและคริปโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนจะปรับลดความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น
ในทางกลับกัน หากตัวเลข CPI ต่ำกว่า 3.2% อาจช่วยลดความกังวลด้านเงินเฟ้อและบรรเทาผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าได้ชั่วคราว ซึ่งอาจช่วยให้ตลาดหุ้นและคริปโตฟื้นตัวได้บ้าง
สำหรับ Bitcoin ซึ่งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาแสดงให้เห็นความยืดหยุ่นมากกว่า Ethereum อาจได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าวบ้าง โดยสนับสนุนมุมมองที่ว่า BTC เริ่มแสดงพฤติกรรมตลาดที่แตกต่างจากสินทรัพย์เสี่ยงทั่วไปในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนในระดับมหภาค
โดยสรุปแล้ว ราคา Bitcoin และ Ether ยังคงมีความผันผวน นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบคอบเพื่อตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาด การเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเป็นสิ่งสำคัญในการลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี






