BTC มีลุ้นพุ่ง! หลังญี่ปุ่นเตรียมพิมพ์เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ

BTC หรือ Bitcoin มีลุ้นราคาพุ่ง! หลังมีประชุมนโยบายการเงินของ Bank of Japan (BOJ) ในเดือนมิถุนายนนี้
เพราะธนาคารกลางอาจตัดสินใจกลับมาใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing: QE) อีกครั้ง เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรค่อนข้างน่าเป็นห่วง และอาจผลักดันให้นักลงทุนสถาบันหันมาใช้ Bitcoin เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินแทน
พูดง่ายๆ ก็คือ QE หมายถึงกระบวนการที่ธนาคารกลางซื้อพันธบัตรและอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยและกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจเผชิญความยากลำบากนั่นเอง
การประชุมของ BoJ อาจพลิกโฉมตลาดสินทรัพย์เสี่ยง!
การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของ BoJ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16–17 มิถุนายนนี้ ได้รับการจับตามองว่าอาจกลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญสำหรับสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือสกุลเงินดิจิทัล
Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Maelstrom แสดงความคิดเห็นว่า หาก BoJ ตัดสินใจยกเลิกการคุมเข้มนโยบายการเงิน (Quantitative Tightening: QT) และหันกลับมาดำเนินนโยบาย QE ในการประชุมครั้งนี้ ก็อาจส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกพุ่งทะยาน
โดยเขาได้โพสต์ข้อความนี้ผ่าน X เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา:
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ปี 2024 ที่ผ่านมา Bank of Japan ได้ประกาศแผนลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลลง 4 แสนล้านเยนต่อไตรมาส โดยเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2024
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมวันที่ 16 มิถุนายนที่จะถึงนี้ อาจมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนแผนดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ของ BoJ กำลังหารือถึงความเป็นไปได้ในการลดจำนวนการซื้อพันธบัตรให้เหลือเพียง 200 พันล้านเยนต่อไตรมาสเท่านั้น โดยจะเริ่มใช้ในเดือนเมษายน 2027 ตามรายงานจาก Bloomberg ที่ได้อ้างอิงแหล่งข่าววงในแบบไม่เปิดเผยชื่อ
การประเมินสถานการณ์ระหว่างทางของ BoJ ในการประชุมครั้งนี้ อาจเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางพิจารณากลับไปใช้นโยบาย QE อีกครั้ง
วิกฤตตลาดพันธบัตรญี่ปุ่น ตัวกระตุ้นให้ BTC ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ $112,000?
Bitcoin ได้พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 112,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาสองวันหลังจากที่ผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 3.185% เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2025

ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตตลาดพันธบัตรของญี่ปุ่นทำให้นักลงทุนสถาบันเริ่มพิจารณา Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาล
โดย André Dragosch หัวหน้าฝ่ายวิจัยยุโรปของ Bitwise กล่าวว่าความเสี่ยงในเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั้น กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ผลักดันให้ BTC มีโอกาสพุ่งขึ้นถึง $200,000
“เมื่อความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น และอัตราผลตอบแทนยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง นี่คือหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ Bitcoin มีโอกาสแตะระดับราคานั้น” Dragosch กล่าวกับ Cointelegraph พร้อมเสริมว่า Bitcoin ไม่มีความเสี่ยงจากคู่สัญญา (Counterparty Risk) ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำคัญ
โดยทั่วไปแล้ว พันธบัตรรัฐบาลถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่เมื่อผลตอบแทนพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มักเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความยั่งยืนทางการคลังและความเสี่ยงในการชำระคืนหนี้
แนวคิดที่ว่า Bitcoin เป็น “เรือชูชีพ” ในระบบ Fiat ที่กำลังจม ได้รับการสนับสนุนจากความสามารถของ BTC ในการเป็นสินทรัพย์ที่ปราศจากความเสี่ยงของคู่สัญญา ซึ่งแตกต่างจากพันธบัตรรัฐบาลที่อาจได้รับผลกระทบจากความไม่มั่นคงทางการคลังของประเทศต่างๆ
การที่ Bank of Japan อาจกลับมาใช้ QE อีกครั้งนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของธนาคารกลางในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจนำไปสู่การลดค่าของเงินสกุลหลักเช่นกัน และยิ่งตอกย้ำความน่าสนใจของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ทางเลือกที่สามารถรักษามูลค่าได้ในระยะยาว ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก






- XRP จ่อปะทุแรง! Ripple ปูพรม RWA สร้างแรงซื้อรอบใหญ่เป้า 35,000%
- Bitcoin, XRP และ Dogecoin ดีดตัวหลังทรัมป์จ่อปิดดีลการค้า
- ChatGPT ฟันธง! XRP, Pepe และ Dogecoin มีลุ้นพุ่งแรงก่อนสิ้นปี 2025
- Dogecoin ส่งสัญญาณฟื้นตัว! นักวิเคราะห์ลุ้นทะยานสู่เป้าหมายใหม่
- ราคา XRP ยืนฐาน $2.20 มั่น ลุ้นวิ่งแตะ $3.00 รอบใหม่
- XRP จ่อปะทุแรง! Ripple ปูพรม RWA สร้างแรงซื้อรอบใหญ่เป้า 35,000%
- Bitcoin, XRP และ Dogecoin ดีดตัวหลังทรัมป์จ่อปิดดีลการค้า
- ChatGPT ฟันธง! XRP, Pepe และ Dogecoin มีลุ้นพุ่งแรงก่อนสิ้นปี 2025
- Dogecoin ส่งสัญญาณฟื้นตัว! นักวิเคราะห์ลุ้นทะยานสู่เป้าหมายใหม่
- ราคา XRP ยืนฐาน $2.20 มั่น ลุ้นวิ่งแตะ $3.00 รอบใหม่