BlackRock เตือนนักลงทุน: Crypto Scammers มุ่งเป้าไปที่ผู้ถือ Bitcoin และ Ether ETF

บริษัทผู้จัดการสินทรัพย์ยักษ์ใหญ่ BlackRock ส่งสัญญาณเตือนเหล่านักลงทุนให้ระวังเหล่า Crypto Scammers ที่กำลังมุ่งเป้าไปที่นักลงทุนที่ถือครอง Bitcoin และ Ether ETF ของ iShares

ในโพสต์ล่าสุดบน X บริษัทได้เตือนไม่ให้มีส่วนร่วมกับพวกแอบอ้างในโซเชียลมีเดียที่แกล้งทำเป็นตัวแทนของ BlackRock

คำเตือนนี้แนะนำนักลงทุนให้หลีกเลี่ยงการติดต่อในโซเชียลมีเดียกับคนที่อ้างว่าเป็นพนักงานของ BlackRock

สแกมเมอร์ที่มุ่งเป้าไปยังนักลงทุน Bitcoin ETF เพิ่มขึ้น

ประกาศของ BlackRock ยังชี้ให้เห็นถึงจำนวนที่เพิ่มขึ้นของการหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุน ซึ่งมักจะหลอกให้ผู้ใช้งานไปยังเว็บไซต์การลงทุนคริปโตปลอมหรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง WhatsApp หรือ Telegram

การเพิ่มขึ้นของเหล่า Crypto Scammers (กลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงผู้อื่นเพื่อหวังที่จะขโมยข้อมูลหรือสินทรัพย์คริปโต) ที่มุ่งเป้าไปที่นักลงทุน Bitcoin ETF เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง

สแกมเมอร์เหล่านี้ใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียเพื่อปลอมตัวเป็นพนักงานของ BlackRock และหลอกลวงนักลงทุน ETF

BlackRock ได้เน้นย้ำว่า พวกเขาจะไม่มีการติดต่อผู้ใช้งานผ่านโซเชียลมีเดียใดๆ เพื่อขอเงินหรือเสนอโอกาสในการลงทุนอย่างแน่นอน

“โปรดระมัดระวังให้ดี และหากคุณสงสัยว่ามีกิจกรรมในการฉ้อโกงใดๆ โปรอย่าดำเนินการต่อ”

There has been a spike in investment-related scams, including directing users toward crypto investment-related websites and/or social media platforms such as WhatsApp or Telegram. We urge caution in dealing with individuals, websites or social media platforms using our brand and…

— BlackRock (@BlackRock) July 28, 2024

นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 11 มกราคม iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock มีมูลค่ารวมถึง 1.97 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้กองทุนนี้เป็นผู้นำในด้านกระแสเงินไหลเข้ารวมในบรรดาผู้ให้บริการ Bitcoin ETF ที่ได้รับการอนุมัติจากสหรัฐฯ

การเติบโตอย่างรวดเร็วของกองทุนนี้แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นในตลาด

Robert Mitchnick หัวหน้าฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัลของ BlackRock ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ในระหว่างงานประชุม Bitcoin 2024 ที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา

เขากล่าวว่า ความสนใจของลูกค้าส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ Bitcoin และ Ether โดยมีความสนใจในคริปโตอื่นๆ นอกเหนือจาก 2 ตัวนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

Mitchnick คาดการณ์ว่า ในท้ายที่สุด นักลงทุนก็จะแปลงการถือครองคริปโต 20% แล้วเปลี่ยนเป็น Ether โดยส่วนใหญ่ยังคงเป็น Bitcoin

ซีอีโอ BlackRock ยอมรับว่า Bitcoin เป็น “ทองคำดิจิทัล”

เมื่อไม่นานมานี้ Larry Fink ซีอีโอของ BlackRock ก็ได้เปิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงมุมมองของเขาที่มีต่อ Bitcoin

ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุด เขากล่าวถึงสินทรัพย์แบบกระจายศูนย์นี้ว่าเป็น “ทองคำดิจิทัล” และเป็นตราสารทางการเงินที่ “ถูกต้องตามกฎหมาย”

Fink ยังเน้นย้ำถึงศักยภาพของ Bitcoin ในฐานะการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ไม่สัมพันธ์กัน ซึ่งน่าดึงดูดใจอย่างยิ่งในช่วงเศรษฐกิจไม่แน่นอนและค่าเงินตกต่ำเนื่องจากการขาดดุลมากเกินไปในบางประเทศ เขากล่าวว่า:

“มันเป็นตราสารทางการเงินที่ถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งอาจจะให้ผลตอบแทนแบบไม่สัมพันธ์กัน ผมเชื่อว่ามันเป็นตราสารที่คุณจะลงทุนเมื่อคุณเกิดความกลัวมากขึ้น”

ในขณะเดียวกัน Mitchnick ได้ลดความคาดหวังสำหรับการเปิดตัวกองทุน ETF ของ Solana และ XRP โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับความสมบูรณ์ สภาพคล่อง และความชัดเจนด้านกฎระเบียบของสินทรัพย์เหล่านี้

“ผมไม่คิดว่าเราจะได้เห็น Crypto ETF ต่อคิวกันมายาวเหยียด” Mitchnick กล่าว

“ถ้าคิดถึง Bitcoin ปัจจุบัน ส่วนแบ่งของมันคิดเป็นประมาณ 55% ของมูลค่าตลาด ส่วน ETH อยู่ที่ 18% สินทรัพย์ที่น่าจะลงทุนได้ถัดไปอยู่ที่ประมาณ 3% ซึ่งมันไม่ใกล้เคียงกับเกณฑ์นั้นหรือมีประวัติความสมบูรณ์ สภาพคล่อง ฯลฯ”

ในวันแรกของงาน Bitcoin Conference 2024 Mitchnick กล่าวว่า ความไม่สบายใจของ SEC กับกองทุน Spot Ether ETF ที่เสนอการ Staking อาจจะทำให้การอนุมัติกองทุน ETF ที่อิงกับ Altcoin อย่าง Solana และ XRP ล่าช้าออกไป