BitGo เตรียมเปิดสาขาในสิงคโปร์ เจาะตลาด APAC

ผู้ให้บริการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลจากสหรัฐฯ อย่าง BitGo ได้ประกาศเปิดตัวบริษัทย่อยในสิงคโปร์ โดยจะให้บริการจัดการโทเค็นภายใต้การกำกับดูแลสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC)
การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ BitGo ได้รับใบอนุญาต Major Payment Institution License จากหน่วยงานกำกับดูแลการเงินสิงคโปร์ (MAS) ในเดือนสิงหาคม 2024
แพลตฟอร์มระบุว่าบริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทจะรองรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 1,100 รายการ
ลูกค้าสถาบันสามารถเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยผ่าน BitGo Singapore
BitGo Singapore จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้โดยตรงจากระบบ Cold Storage โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มการเทรดได้ผ่าน API หน้าเว็บไซต์ หรือการเทรดแบบสั่งผ่านเสียง แพลตฟอร์มนี้จะเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการสภาพคล่องชั้นนำเพื่อรับประกันราคาที่แข่งขันได้
แพลตฟอร์มนี้ยังรองรับการชำระบัญชีแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ลูกค้าสถาบันสามารถเทรดและชำระบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
Youngro Lee ซีอีโอของ BitGo Singapore กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เปิดตัว BitGo Singapore และนำเสนอโซลูชันสินทรัพย์ดิจิทัลและบริการโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการกำกับดูแลที่ดีที่สุดให้กับภูมิภาค APAC”
การประกาศในครั้งนี้ยังได้เปิดเผยว่า BitGo ได้ร่วมมือกับ Neutronpay ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถส่งและรับการชำระเงินผ่านเครือข่าย Lightning Network ของ Bitcoin ได้
สิงคโปร์เสริมความแข็งแกร่งในฐานะศูนย์กลางคริปโตด้วยการเชื่อมต่อเชิงกลยุทธ์
MAS ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของประเทศ ได้ใช้แนวทางเชิงรุกแต่ระมัดระวังต่อสกุลเงินคริปโต ในปี 2020 โดยได้มีการออกกฎหมาย Payment Services Act (PSA) ซึ่งสร้างกรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนสำหรับบริการโทเค็นการชำระเงินดิจิทัล รวมถึงคริปโตเคอเรนซี
กฎหมายนี้จะมุ่งเน้นการป้องกันการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย พร้อมทั้งเปิดช่องทางทางกฎหมายให้ธุรกิจคริปโตสามารถขอใบอนุญาตได้ ความชัดเจนด้านกฎระเบียบนี้ได้ดึงดูดเหล่าผู้ให้บริการซื้อขายคริปโตและสตาร์ทอัพฟินเทคจำนวนมากที่กำลังมองหาสภาพแวดล้อมที่มั่นคงเพื่อการเติบโตในอนาคต
สิงคโปร์มีทำเลที่ตั้งที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับตลาดหลักในเอเชียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะจีนที่มีกฎระเบียบเข้มงวดในการเทรดคริปโต จนทำให้ธุรกิจต่างๆ ต้องมองหาศูนย์กลางใหม่
ปัจจุบัน มีบริษัทคริปโต 29 แห่ง รวมถึง Blockchain.com, Circle และ Coinbase ที่ได้รับใบอนุญาตเต็มรูปแบบให้ดำเนินธุรกิจในสิงคโปร์ได้






