ผู้เชี่ยวชาญชี้ Bitcoin จ่อทุบสถิติ แตะ 100k ดอลลาร์ ในเร็วๆ นี้

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมีความเชื่อมั่นว่า Bitcoin (BTC) จะขึ้นไปแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 100k ดอลลาร์ ในเร็วๆ นี้

ถึงแม้ว่าเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตัวเลขนี้อาจจะดูเป็นเป้าหมายที่สูงจนเกินไป แต่การที่ BTC ทะลุ 93,000 ดอลลาร์ไปเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์นี้กำลังมุ่งหน้าไปสู่ระดับ 100,000 ดอลลาร์ อีกทั้ง BTC ยังทำสถิติสูงสุดใหม่เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน โดยพุ่งขึ้นไปแตะที่ 94,000 ดอลลาร์อีกด้วย

BITCOIN HITS $94,000 pic.twitter.com/CPSEbNwyBB

— Dennis Porter (@Dennis_Porter_) November 19, 2024

ปัจจัยปัจจุบันที่ผลักดัน Bitcoin สู่ระดับ 100,000 ดอลลาร์

Daryll Netscher ผู้ก่อตั้ง Tren Finance กล่าวกับ Cryptonews ว่ามีหลายปัจจัยที่เชื่อมโยงกันซึ่งผลักดันให้ Bitcoin มุ่งหน้าสู่จุดสำคัญที่ระดับ 100,000 ดอลลาร์

“ประการแรก เราได้เห็นการยอมรับจากสถาบันในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญ หลังจากชัยชนะของ Donald Trump ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด ความเชื่อมั่นของตลาดคริปโตก็แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเนื่องจากความคาดหวังว่าจะมีสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เป็นมิตรต่อคริปโตมากขึ้น” Netscher กล่าว “นอกจากนี้ การอนุมัติและเปิดตัวกองทุน Bitcoin ETF แบบ ฆpot ยังช่วยสร้างช่องทางการเข้าถึงที่ง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนแบบดั้งเดิมอีกด้วย”

Netscher เชื่อว่าโครงสร้างพื้นฐานระดับสถาบันในปัจจุบันจะสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งกว่าสำหรับการเติบโตของ Bitcoin เมื่อเทียบกับการพุ่งขึ้นของราคาในครั้งก่อนๆ

เขาชี้ให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคในภาพรวมแสดงให้เห็นถึงสภาวะที่เอื้อต่อการลงทุนใน Bitcoin

Netscher กล่าวว่าเหตุการณ์ Bitcoin Halving ในปี 2024 ซึ่งในอดีตมักจะตามมาด้วยการที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น กำลังเกิดขึ้นพร้อมกับความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากสถาบัน ก่อให้เกิดการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ระหว่างการลดลงของอุปทานและการเติบโตของอุปสงค์

สิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์แล้ว เนื่องจากการพุ่งขึ้นของราคา BTC ในปัจจุบันทำให้ผู้สนับสนุน Bitcoin อย่าง MicroStrategy และ Metaplanet ประกาศซื้อ BTC เพิ่มในสัปดาห์นี้ โดยที่น่าสังเกตคือ MicroStrategy ถือครอง Bitcoin จำนวนมาก โดยคิดเป็น 1.5% ของอุปทานทั้งหมด

ราคา Bitcoin กำลังมีแนวโน้มสูงขึ้น ความผันผวนลดลง

แม้ว่าราคา BTC ที่ 100,000 ดอลลาร์จะเป็นจุดสำคัญ แต่ Tim Enneking ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของ Digital Capital Management ได้ให้ข้อมูลกับ Cryptonews ว่าราคาของ Bitcoin มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยไม่คำนึงถึงปัจจัยในปัจจุบัน

“Bitcoin มีราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากภาวะเงินฝืด เงินเฟ้อในสกุลเงินเฟียต ความกลัวที่จะพลาดโอกาส และข้อเท็จจริงที่ว่าไม่มีหน่วยงานใดควบคุมสินทรัพย์นี้ได้” Enneking กล่าว

Enneking ยังได้เสริมว่า การพึ่งพาอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคา Bitcoin สูงขึ้น เขาเชื่อว่าเป็นเพราะความสะดวกในการโอนของคริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin

“ในการที่สิ่งใดจะถือเป็นเงินได้นั้น มันจะต้องสามารถโอนย้ายได้อย่างง่ายดาย ซึ่งคริปโตสามารถโอนย้ายได้อย่างแท้จริง” เขากล่าว “และถึงแม้ว่าผมจะเชื่อว่ายังไม่มีสิ่งใดในวงการคริปโตที่ใกล้เคียงกับการเป็นสกุลเงิน แต่แนวคิดเรื่องรูปแบบความมั่งคั่งที่โอนย้ายได้นั้นถือเป็นแนวคิดที่ยิ่งใหญ่”

Enneking ชี้ให้เห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะได้เห็นว่าว่าที่ประธานาธิบดี Trump คิดอย่างไรกับการจัดตั้งคลังสำรอง Bitcoin ในช่วงการดำรงตำแหน่งของเขา

Enneking ยังสังเกตว่าความผันผวนของ Bitcoin กำลังลดลง เขาเชื่อว่าสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบนักลงทุนคริปโตที่เกิดขึ้นทุก 18 เดือน

“ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา สถาบันการเงินเข้ามาลงทุนและมีการเปิดตัว Bitcoin ETF” เขากล่าว “ทุก 18 เดือนจะมีรูปแบบนักลงทุนใหม่เข้ามา ซึ่งส่งผลให้ความผันผวนของ Bitcoin ลดลง”

Bitcoin ที่ราคา 100,000 ดอลลาร์จะส่งผลต่อการยอมรับจากสถาบันและนักลงทุนรายย่อยอย่างไร

การที่ Bitcoin แตะระดับ 100,000 ดอลลาร์จะส่งผลกระทบต่อทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย อย่างไรก็ตาม Enneking ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนสถาบันจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า

“สำหรับนักลงทุนสถาบันนั้น นี่เป็นเพียงแค่ตัวเลขหนึ่ง แต่ผลกระทบทางจิตวิทยาของราคา Bitcoin ที่ 100,000 ดอลลาร์จะส่งผลอย่างมากต่อนักลงทุนรายย่อย ความกลัวที่จะพลาดโอกาสจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อ Bitcoin แตะระดับ 100,000 ดอลลาร์” Enneking อธิบาย

Netscher เสริมว่าการทะลุจุดสำคัญของราคานี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการผสานคริปโตเคอร์เรนซีเข้ากับระบบการเงินในวงกว้าง

ในแง่ของสถาบันการเงิน ความสำเร็จครั้งนี้จะเป็นการยืนยันแนวคิดของสถาบันที่เข้ามาลงทุนในช่วงแรก พร้อมทั้งสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการจัดสรรพอร์ตการลงทุน เราเห็นสถาบันการเงินรายใหญ่เริ่มถือครองคริปโตในสัดส่วนเล็กๆ แต่ความเป็นมืออาชีพของตลาดในระดับนี้น่าจะเป็นตัวเร่งให้เกิดแนวทางในการจัดสรรสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น

#Bitcoin 100k earlier than anyone expects.

100k will be a floor price this cycle

with potential of truly enjoying one of the biggest parabolic run in recent cycles

Supply shock
– Government reserves
– ETFs
– Institution Adoption as cash reserve
– Widespread mainstream adoption…

— Mr. H (@MisterHcrypto) November 19, 2024

Netscher เชื่อว่ามูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ Bitcoin กลายเป็นสิ่งที่นักลงทุนสถาบันไม่อาจมองข้ามได้ ซึ่งอาจจะนำไปสู่รูปแบบการจัดสรรคริปโตที่เป็นมาตรฐาน คล้ายกับที่ใช้กับทองคำและสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ

สอดคล้องกับ Enneking, Netscher ก็เสริมว่าเราน่าจะได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนยิ่งกว่าในภาคตลาดรายย่อย

“เหตุการณ์สำคัญนี้จะสร้างความสนใจจากสื่อและสาธารณชนในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และที่สำคัญกว่านั้นคือจะเป็นการพิสูจน์แนวคิด ‘ทองคำดิจิทัล’ ให้กับผู้คนในวงกว้าง” Netscher อธิบาย “การเป็นที่รู้จักมากขึ้นนี้น่าจะเร่งให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ใช้งานง่าย ทำให้คริปโตเคอเรนซีเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนทั่วไป”

แม้ว่าสิ่งนี้ได้เกิดขึ้นไปแล้วจากการเปิดตัวของ Bitcoin ETF แต่ Netscher คาดว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่อิงกับ Bitcoin กลายเป็นบริการมาตรฐานบนแพลตฟอร์มธนาคารแบบดั้งเดิม

Bitcoin มีแนวโน้มที่จะแตะ 100,000 ดอลลาร์และสูงกว่านั้น

ในขณะที่ราคา Bitcoin ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับประมาณ 93,000 ดอลลาร์ Netscher เชื่อว่าโครงสร้างตลาดในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าเป้าหมาย 100,000 ดอลลาร์อาจจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นมากกว่าจะเป็นเพดานราคา

“การผสมผสานระหว่างการยอมรับจากสถาบันผ่านกองทุน ETF ผู้ดูแลสภาพคล่องในตลาดมืออาชีพ และกลยุทธ์การลงทุนในระยะยาว กำลังสร้างรากฐานที่มั่นคงกว่าเดิมสำหรับการเพิ่มขึ้นของราคา เมื่อเทียบกับรอบตลาดก่อนหน้านี้ ซึ่งบ่งบอกถึงโอกาสที่โมเมนตัมจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง” เขากล่าว

Enneking คาดการณ์ว่า Bitcoin จะทะลุ 100,000 ดอลลาร์และไปถึงอย่างน้อย 120,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีหน้า

“ในอดีตที่ผ่านมา วัฏจักร 4 ปีเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ BTC Halving มักจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนก่อนที่ตลาดขาขึ้นของ BTC จะเริ่มต้น ซึ่งโดยปกติจะกินเวลาประมาณ 1 ปีและค่อนข้างมีเสถียรภาพ”

Netscher อธิบายเพิ่มเติมว่าการที่ผลกระทบด้านอุปทานจากเหตุการณ์ Halving ปี 2024 เกิดขึ้นพร้อมกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสถาบัน ได้สร้างสภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ Bitcoin

อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า แม้ว่าเส้นทางที่จะผ่านระดับ Bitcoin ที่ 100,000 ดอลลาร์จะมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งรองรับ แต่ก็อาจจะมีช่วงที่ราคาทรงตัวและปรับฐานเกิดขึ้นได้

แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจจะรุนแรงน้อยกว่าในรอบที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดในปัจจุบันมีผู้เล่นที่มีความซับซ้อนมากขึ้น” Netscher กล่าว