Bitcoin Sentiment: ส่องแนวโน้มใหม่ในวัฏจักรย่อยของการขุด BTC

Bitcoin Sentiment หรือความรู้สึกตลาดที่มีต่อ BTC กำลังบ่งชี้ว่าตลาดกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงใหม่ในวงจรขุดบิทคอยน์
ปกติแล้วจะมีการขุด (halving) บิทคอยน์ทุกๆ 4 ปี ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเติบโตของราคาปีต่อปี และภายในกรอบใหญ่ของ cycle หรือวงจรนี้ นักเทรดก็มักคาดการณ์ถึงช่วงสำคัญที่จะเกิดขึ้น เช่น ช่วงราคาสะสม (accumulation phase) การปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และการปรับฐานลงอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ ในระยะเวลาสี่ปีนี้ ยังมี cycle ย่อยที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของความเชื่อมั่นในตลาด รวมถึงพฤติกรรมของผู้ถือครองระยะสั้นและระยะยาวด้วย โดย cycle ย่อยเหล่านี้ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมทางจิตวิทยาของนักลงทุน สามารถบอกทิศทางของการเคลื่อนไหวครั้งถัดไปของ BTC ได้
ตลาดถดถอย วาฬไม่ปล่อย BTC
กลุ่มผู้ถือครองระยะยาวซึ่งมักถือครองเหรียญไว้ 3-5 ปี มักจะถูกมองว่าเป็นนักลงทุนที่มีประสบการณ์และมีความมั่นคงสูง พวกเขาสามารถอดทนต่อช่วงตลาดหมี (ขาลง) ที่ยาวนาน และมักขายเหรียญในช่วงที่ราคาขึ้นสูงสุดในรอบเล็ก ๆ
ข้อมูลจาก Glassnode ระบุว่าใน cycle ปัจจุบัน ผู้ถือครองระยะยาวได้กระจายเหรียญ BTC ออกไปกว่า 2 ล้านเหรียญในช่วง 2 ระลอก โดยหลังจากการขายแต่ละครั้ง ก็จะเกิดการซื้อสะสมเหรียญกลับมาอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งช่วยรองรับแรงขายและทำให้ราคามีเสถียรภาพมากขึ้น
ปัจจุบัน กลุ่มผู้ถือระยะยาวกำลังอยู่ในช่วงสะสมใหม่ โดยตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ความมั่งคั่งของกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 363,000 BTC แล้ว
อีกกลุ่มหนึ่งของผู้ถือ Bitcoin ที่มักถูกมองว่ามีประสบการณ์มากกว่าผู้เข้าร่วมตลาดทั่วไป คือกลุ่มที่เรียกว่า “วาฬ (Whales)” ซึ่งเป็น address ที่ถือครอง BTC มากกว่า 1,000 เหรียญ และหลายคนในกลุ่มนี้ยังเป็นผู้ถือระยะยาวอีกด้วย
ส่วนกลุ่มวาฬยักษ์หรือ Mega-whales คือผู้ที่ถือครองมากกว่า 10,000 เหรียญ ปัจจุบันมีที่อยู่ดังกล่าวจำนวน 93 แห่ง (อ้างอิงจาก BitInfoCharts) และกิจกรรมล่าสุดของพวกเขาบ่งชี้ถึงการสะสมอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจาก Glassnode เผยว่าในช่วงต้นเดือนเมษายน วาฬขนาดใหญ่มีคะแนนการสะสมเกือบสมบูรณ์แบบ (ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 1.0) โดยเกิดขึ้นในช่วง 15 วัน ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการซื้ออย่างหนัก แม้คะแนนสะสมจะลดลงมาที่ประมาณ 0.65 แต่ก็ยังสะท้อนถึงการสะสมที่ต่อเนื่อง
พฤติกรรมของวาฬเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังซื้อเหรียญจากกลุ่มผู้ถือครองรายย่อยอยู่ ซึ่งคะแนนการสะสมของกลุ่มผู้ถือรายย่อยเหล่านี้ลดลงมาที่ 0.1–0.2
การกระจายตัวนี้แสดงถึงการเปลี่ยนมือจากนักลงทุนรายย่อยไปยังผู้ถือครองรายใหญ่ ซึ่งมีศักยภาพที่จะช่วยสนับสนุนราคาต่อไปในอนาคต โดยในหลายกรณี พฤติกรรมนี้มักเกิดขึ้นก่อนช่วงตลาดกระทิง
ยกตัวอย่างครั้งล่าสุดที่ Mega-whales มีคะแนนการสะสมแบบสมบูรณ์คือเดือนสิงหาคม 2024 ซึ่งตอนนั้น Bitcoin มีราคาประมาณ $60,000 และเพียงสองเดือนต่อมา BTC ก็พุ่งขึ้นถึง $108,000
ผู้ถือระยะสั้นกับความเชื่อมั่นที่เปลี่ยนแปลงง่าย
ผู้ถือครองระยะสั้น ซึ่งมักถือเหรียญไว้แค่ประมาณ 3-6 เดือนนั้น มีพฤติกรรมที่แตกต่างจากกลุ่มผู้ถือระยะยาว ตรงที่พวกเขามักจะขายเหรียญในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอนหรือราคาปรับตัวลง
พฤติกรรมนี้มักเป็นไปตามรูปแบบที่คาดการณ์ได้ ข้อมูลจาก Glassnode พบว่าการใช้จ่าย BTC ของผู้ถือครองระยะสั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและลดลงในรอบประมาณ 8-12 เดือน
ในปัจจุบัน การใช้จ่ายของกลุ่มผู้ถือครองระยะสั้นอยู่ในจุดต่ำสุดทางประวัติศาสตร์ แม้ว่าเศรษฐกิจมหภาคจะมีความผันผวนสูง สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนหน้าใหม่จำนวนมากยังคงเลือกที่จะถือเหรียญไว้แทนที่จะขายในช่วงตลาดหมี อย่างไรก็ตาม หากราคา BTC ลดลงมากกว่านี้ ผู้ถือครองระยะสั้นก็อาจเริ่มขายเหรียญเช่นกัน ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับตัวลงของตลาด
ดัชนีที่ชี้ความรู้สึกของตลาดได้เป็นอย่างดีคือ ดัชนีความกลัวและความโลภ หรือ Fear & Greed Index ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเทรดรายย่อยควรจับตามองอยู่เสมอ เพราะตลาดนั้นขับเคลื่อนด้วยผู้คนและอารมณ์ ซึ่งล้วนมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่ในระดับบุคคล แต่ยังส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดโดยรวมด้วย
ดัชนีความกลัวและความโลภ ของ CoinMarketCap แสดงให้เห็นจังหวะนี้ได้เป็นอย่างดี ตัวชี้วัดนี้ ซึ่งอิงตามดัชนีตลาดหลายตัว โดยทั่วไปแล้วจะหมุนเวียนทุกๆ 3 ถึง 5 เดือน โดยอาจแกว่งจากเป็นกลางไปสู่โซนความโลภหรือความกลัว

วัฏจักรความเชื่อมั่น กับผลกระทบต่อราคา Bitcoin
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับวงจรตลาดคือ มันสามารถกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงได้ เพราะเมื่อมีคนจำนวนมากเชื่อในรูปแบบหนึ่งๆ พวกเขาจะเริ่มปฏิบัติตามๆ กัน เช่น การขายทำกำไรในจุดสูงสุดที่คาดไว้ หรือการซื้อในจุดต่ำสุดที่คาดการณ์ไว้ พฤติกรรมร่วมกันนี้ช่วยเสริมสร้างวงจรและทำให้มันมีความต่อเนื่อง
BTC เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน กล่าวคือ วงจรของมันอาจไม่เกิดขึ้นตามเวลาที่แน่นอน แต่ก็มีความสอดคล้องพอที่จะสร้างความคาดหวังและส่งผลต่อความเป็นจริงได้
โดยสรุปแล้ว การเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นของนักเทรดกำลังส่งสัญญาณถึงขั้นตอนต่อไปในวงจร Bitcoin Halving ผู้ถือระยะยาวกำลังสะสมเหรียญอีกครั้ง ในขณะที่ผู้ถือระยะสั้นยังคงระมัดระวัง ทั้งนี้เรายิ่งต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะนี่คือช่วงเวลาแห่งความผันผวน






