บิทคอยน์ ทะลุ $108K หลังข่าว Trump ETF และ SoFi กระหึ่มวอลสตรีท!

บิทคอยน์ (Bitcoin) ราคากลับมามีทิศทางเป็นบวกอย่างชัดเจน โดยซื้อขายอยู่ราว $107,000 – $108,000 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 1.5% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตลาดได้รับแรงหนุนสำคัญจากการที่ SoFi แพลตฟอร์มการเงินยักษ์ใหญ่ประกาศกลับมาให้บริการเทรดคริปโตอีกครั้ง ควบคู่ไปกับการที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ยื่นจดทะเบียน ETF ที่ได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ ซึ่งส่งสัญญาณบวกจากสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง
แพลตฟอร์มการเงินจาก San Francisco อย่าง SoFi มีแผนเปิดตัวการซื้อขายบิทคอยน์และอีเธอเรียมอีกครั้งภายในปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น การปล่อยสินเชื่อที่ใช้คริปโตค้ำประกัน บริการ staking และการรองรับ stablecoins
การกลับมาครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากการถอนตัวออกจากบริการคริปโตในปี 2023
ซีอีโอ Anthony Noto ได้เน้นย้ำว่าเทคโนโลยี blockchain จะกลายเป็นหัวใจสำคัญของผลิตภัณฑ์ในอนาคตของ SoFi โดย SoFi ซึ่งปัจจุบันถือใบอนุญาต BitLicense ในรัฐนิวยอร์ก กำลังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาไปสู่การเป็นธนาคารคริปโตเต็มรูปแบบ ท่ามกลางบรรยากาศด้านกฎระเบียบในสหรัฐฯ ที่เอื้อต่ออุตสาหกรรมนี้มากขึ้นในยุคของรัฐบาลทรัมป์
- SoFi เตรียมเปิดให้บริการ BTC, ETH, การ staking และการปล่อยสินเชื่อ
- Blockchain จะเป็นแกนหลักของแพลตฟอร์ม SoFi ที่ขยายตัว
- การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นผลจากความชัดเจนด้านกฎระเบียบที่ OCC กำหนด
ราคาบิทคอยน์พุ่งสูงขึ้นแตะระดับประมาณ $107,500 หลังจากนักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อการที่บริษัทฟินเทครายใหญ่ในสหรัฐฯ กลับเข้าสู่ตลาดคริปโตอีกครั้ง
NYSE ยื่นขอจดทะเบียน ETF ใหม่ที่หนุนโดยทรัมป์!
ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอจดทะเบียนกองทุน ETF ใหม่ในชื่อ “Truth Social Bitcoin and Ethereum ETF” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Trump Media และ Yorkville America โดยกองทุนนี้มีการจัดสรรการลงทุนในบิทคอยน์เป็นสัดส่วน 75% และอีเธอเรียมอีก 25% พร้อมกับได้รับการดูแลสินทรัพย์และจัดการสภาพคล่องโดย Crypto.com
การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงแนวโน้มตลาดในทิศทางบวก โดยเฉพาะในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง บิทคอยน์ และ อีเธอเรียม ที่ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรม
แม้ว่าในขณะนี้การอนุมัติจาก SEC จะยังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญของ Trump Media ในการเชื่อมโยงตนเองเข้ากับกระแสความนิยมในโลกคริปโต การยื่นเอกสารเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากมีการยื่นขออนุมัติ ETF ฉบับอื่น ซึ่งบ่งบอกถึงการรุกตลาดคริปโตอย่างมีนัยสำคัญ
- ETF มีสัดส่วนการลงทุน 75% ใน BTC และ 25% ใน ETH
- Crypto.com จะทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสินทรัพย์
- Trump Media เดินหน้าสร้างความสัมพันธ์ในโลกคริปโต
การประกาศดังกล่าวส่งผลให้ บิทคอยน์ สามารถรักษาระดับราคาเหนือ $107,000 เอาไว้ได้ โดยได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังต่อการยอมรับในตลาดวงกว้าง
Bitcoin ETFs ดึงเงินไหลเข้า $588M เสริมแรงหนุนตลาด
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กองทุน Spot Bitcoin ETFs ในสหรัฐฯ ทำสถิติเงินไหลเข้ารายวันที่สูงที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ โดยมีมูลค่ารวมถึง $588.6 ล้าน
กองทุน IBIT ของ BlackRock ยืนหนึ่งด้วยเม็ดเงินที่ไหลเข้าถึง $436.32 ล้าน ตามมาด้วยกองทุน FBTC ของ Fidelity ที่ดึงเงินลงทุนได้ $217.6 ล้าน อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง Grayscale GBTC กลับมีเงินไหลออกถึง $85.2 ล้าน
เป็นวันที่ 11 ติดต่อกันที่ตลาด Spot ETFs มีการไหลเข้า (inflow) แบบสุทธิ ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์หยุดยิงระหว่าง Israel และ Iran ที่ช่วยลดความเสี่ยงในตลาดการเงินโดยรวม นักวิเคราะห์ชี้ว่า การไหลเข้าสู่ ETFs กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของราคาบิทคอยน์ในระยะสั้น โดยมีความสัมพันธ์อย่างชัดเจนกับประสิทธิภาพราคาของสินทรัพย์
- BlackRock และ Fidelity มีเงินเข้าสูงสุด
- ETFs ทำสถิติไหลเข้า 11 วันติดต่อกัน
- สถานการณ์หยุดยิงลดแรงกดดันทางเศรษฐกิจมหภาค
ราคาบิทคอยน์ที่ปรับตัวจาก $98,000 ไปแตะระดับสูงกว่า $108,000 ทำให้นักวิเคราะห์สังเกตเห็นว่ามุมมองของนักลงทุนที่มองว่า BTC เป็น “ทองคำดิจิทัล” ยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
วิเคราะห์กราฟ บิทคอยน์
ในขณะนี้ BTC/USD ยังคงเคลื่อนไหวแบบทรงตัวอยู่ต่ำกว่าแนวต้านสำคัญที่ $108,740 หลังจากที่สามารถทะลุแนวโน้มขาลงที่ลากยาวมาหลายสัปดาห์ใกล้บริเวณ $106,800 ได้สำเร็จ แม้ว่า MACD จะยังคงแสดงสัญญาณเชิงบวก แต่กราฟเริ่มแบนราบ ซึ่งบ่งชี้ว่าโมเมนตัมของราคามีแนวโน้มชะลอตัวลงชั่วคราว

- จุดทะลุแนวต้าน: สูงกว่า $108,740
- เป้าหมาย: $110,490 และ $112,080
- โซนซื้อเมื่อราคาย่อตัว: $106,800 ถึง $105,100
หากราคาสามารถยืนเหนือระดับ $108,740 ได้อย่างมั่นคง อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวขาขึ้นรอบใหม่ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ นักลงทุนกำลังจับตาดูปริมาณการซื้อขายและรูปแบบของแท่งเทียนอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่าแนวโน้มการทะลุแนวต้านนี้มีความน่าเชื่อถือเพียงใด
โดยรวมแล้ว บิทคอยน์ ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งการกลับมาของสถาบันการเงินอย่าง SoFi, การยื่นจัดตั้ง ETF ที่เกี่ยวข้องกับ Trump และกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า Spot Bitcoin ETF อย่างต่อเนื่อง นำโดย BlackRock ปัจจัยเหล่านี้ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผลักดันให้ราคามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น





