วิเคราะห์ราคา Bitcoin: การเปิดเผยตัวตน Satoshi Nakamoto ส่งผลต่อราคา BTC อย่างไร?
วิเคราะห์ราคา Bitcoin: ราคา Bitcoin ดิ้นรนที่จะฟื้นตัวจากการลดลงในช่วงแรก โดยซื้อขายอยู่ภายใต้แรงกดดันที่ระดับประมาณ 60,500 ดอลลาร์ แนวโน้มขาลงนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากแผนการของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะขาย Bitcoin มูลค่า 4.38 พันล้านดอลลาร์ ที่ยึดมาจากตลาดมืด Silk Road ที่อื้อฉาว
การเทขายในปริมาณมากเช่นนี้มักจะทำให้ตลาดเกิดความผันผวน สร้างความไม่มั่นใจให้นักลงทุนและส่งผลให้ราคา Bitcoin ลดลง
นอกจากนี้ สถานการณ์ดังกล่าวยังเลวร้ายมากขึ้นจากข้อถกเถียงที่เกิดขึ้นจากสารคดีของ HBO เรื่อง “Money Electric: The Bitcoin Mystery” ที่ระบุว่า Peter Todd อาจจะเป็น Satoshi Nakamoto เรื่องนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และความไม่แน่นอนในชุมชนคริปโต และยิ่งทำให้สถานะในตลาดของ Bitcoin แย่ลงไปอีก
สารคดี HBO จุดประเด็นการคาดเดาตัวตน Satoshi ส่งผลให้ราคา Bitcoin สั่นคลอน
สารคดีเรื่องใหม่ของ HBO “Money Electric: The Bitcoin Mystery” อ้างว่า Peter Todd อดีตนักพัฒนา Bitcoin คือ Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง Bitcoin ที่ไม่เคยเปิดเผยตัวตน อย่างไรก็ตาม Todd ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างหนักแน่น โดยบอกว่ามันเป็นเรื่อง “น่าขำ”
สารคดีเรื่องนี้กำกับโดย Cullen Hoback โดยจะเล่าถึงจุดกำเนิดและวิวัฒนาการของ Bitcoin แต่ก็ไม่ได้ให้หลักฐานที่น่าเชื่อถือมากเพียงพอที่จะสนับสนุนข้อกล่าวอ้างที่ว่า Todd มีความเกี่ยวข้องกับ Nakamoto
นักวิจารณ์มองว่า สารคดีนี้อาศัยการสร้างกระแสและข้อกล่าวอ้างที่ไม่มีน้ำหนักแทนที่จะเป็นข้อเท็จจริงที่หนักแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความไม่น่าเชื่อถือที่ผู้ที่มีอายุเพียง 23 ปีจะอยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีทางการเงินที่ปฏิวัติวงการ
แม้ว่าสารคดีจะพยายามเชื่อมโยง Todd กับ Nakamoto จากการมีส่วนร่วมในช่วงแรกๆ ของ Bitcoin และความคล้ายคลึงกันในการใช้ภาษา แต่ผู้คนในชุมชนคริปโตส่วนใหญ่ก็ยังคงไม่เชื่อในเรื่องดังกล่าว Todd เองก็พูดถึงข้อกล่าวอ้างที่น่าเหลือเชื่อของสารคดีอย่างขำๆ ในระหว่างให้สัมภาษณ์ พร้อมยืนยันว่าเขาไม่ใช่ Satoshi Nakamoto
อย่างไรก็ตาม ตัวตนของ Nakamoto ยังคงเป็นหัวข้อที่มีการคาดเดากันเป็นอย่างมาก โดยมีหลายคนที่ถูกเอ่ยอ้างถึงมาตลอดหลายปี จนถึงตอนนี้ ตัวตนที่แท้จริงของ Nakamoto ยังคงเป็นหนึ่งในปริศนาใหญ่ที่สุดในโลกคริปโต โดยผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเปิดเผยตัวตนของเขานั้นจะมีอิทธิพลต่อการยอมรับและมูลค่าของ Bitcoin
ดังนั้น การที่สารคดีอ้างว่า Peter Todd เชื่อมโยงกับ Satoshi Nakamoto อาจจะทำให้เกิดการคาดเดาและความผันผวนในราคา Bitcoin มากขึ้น แต่การขาดหลักฐานที่น่าเชื่อถือก็อาจจะทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงด้วย ซึ่งอาจจะส่งผลให้ตลาดมีปฏิกิริยาที่หลากหลาย
คำตัดสินของศาลฎีกาเรื่องการขาย Bitcoin มูลค่า 4.38 พันล้านดอลลาร์ที่ถูกยึด สร้างความไม่แน่นอนในตลาด
ศาลฎีกาของสหรัฐฯ ยืนยันคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ โดยอนุญาตให้รัฐบาลขาย Bitcoin จำนวน 69,370 เหรียญ (มูลค่า 4.38 พันล้านดอลลาร์) ที่ยึดมาจากตลาด Silk Road ก่อนหน้านี้ Battle Born Investments เคยอ้างสิทธิ์ในทรัพย์สินนี้ แต่การอุทธรณ์ของพวกเขาถูกปฏิเสธ ทำให้การขายสามารถดำเนินการต่อไปได้
รัฐบาลมีประวัติการขาย Bitcoin ที่ยึดมาโดยตลอด รวมถึงการขายมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม 2023 ซึ่งทำให้ตลาดผันผวนอย่างเห็นได้ชัด การตัดสินใจนี้ยังส่งผลกระทบในเรื่องการเมืองด้วย
Donald Trump เสนอให้สร้าง “คลัง Bitcoin สำรองเชิงกลยุทธ์” หากได้รับเลือกตั้ง ในขณะที่ Kamala Harris ยังไม่ได้แสดงจุดยืนเกี่ยวกับคริปโตที่รัฐบาลถือครองอยู่ เหล่านักเทรดกำลังจับตาดูพัฒนาการเหล่านี้อย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าตลาดจะผันผวนมากขึ้นเมื่อใกล้ๆ ถึงช่วงเวลาขาย Bitcoin
ประเด็นสำคัญ:
- Bitcoin ที่ถูกยึด 69,370 เหรียญ: มูลค่า 4.38 พันล้านดอลลาร์ พร้อมขาย
- ผลกระทบจากการขายครั้งก่อน: การขายคล้ายกันในกรกฎาคม 2023 ทำให้ตลาดเคลื่อนไหวอย่างมาก
- ผลทางการเมือง: Trump เสนอสร้าง “คลัง Bitcoin” ส่วนจุดยืนของ Harris ยังไม่ชัดเจน
ราคา Bitcoin ร่วงต่ำกว่า 61,000 ดอลลาร์ สัญญาณ “Three Black Crows” บ่งบอกว่าจะลดลงต่อ
Bitcoin (BTC/USD) ซื้อขายอยู่ที่ 60,480 ดอลลาร์ ลดลง 0.16% โดยมีแท่งเทียนขาลงดึงราคาลงอย่างรวดเร็ว แรงเทขายล่าสุดทำให้ Bitcoin หลุดระดับแนวรับที่สำคัญที่ 61,070 ดอลลาร์ไป ทำให้มันกลายเป็นแนวต้านทันที
ในกราฟ 2 ชั่วโมง การเกิดรูปแบบแท่งเทียน “Three Black Crows” ซึ่งเป็นสัญญาณขาลงอย่างรุนแรง บ่งบอกว่าแนวโน้มขาลงอาจจะดำเนินต่อไป โดยมีแนวรับใกล้ที่สุดอยู่ที่ 59,880 ดอลลาร์ และแนวรับในระดับถัดไปที่ 59,140 ดอลลาร์และ 58,450 ดอลลาร์
RSI อยู่ที่ 29.5 ซึ่งบ่งบอกว่าตลาดอยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold) อย่างรุนแรง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการฟื้นตัวชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม หากราคาไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 61,070 ดอลลาร์ และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (50-day EMA) ที่ 62,440 ดอลลาร์ได้ แนวโน้มขาลงน่าจะยังคงมีอิทธิพลอยู่ แนวต้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 61,710 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 62,540 และ 63,180 ดอลลาร์
ข้อมูลสำคัญ:
- รูปแบบขาลง: รูปแบบ “Three Black Crows” บ่งบอกว่าราคาอาจจะลดลงต่อ
- แนวรับที่สำคัญ: จับตาดูแนวรับที่ 59,880 และ 59,140 ดอลลาร์
- จุดกลับตัวของแนวต้าน: ต้องทะลุ 61,070 ดอลลาร์ขึ้นไปเพื่อหักล้างแนวโน้มขาลง
ทำไม Pepe Unchained ถึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับพอร์ตคริปโตของคุณ
Pepe Unchained ($PEPU) กำลังกลายมาเป็นเหรียญคริปโตที่โดดเด่นในวงการเหรียญมีม โดยเฉพาะหลังจากที่มีกระแสของ Pepe Coin ในขณะที่เหรียญมีมเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น $PEPU ได้วางตำแหน่งตัวเองเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ ด้วยตัวเลือกการ Staking ที่แข็งแกร่งและความสำเร็จในช่วงพรีเซล
เป้าหมายของการพรีเซล
การพรีเซลของ $PEPU ได้ระดมทุนไปแล้ว 17.5 ล้านดอลลาร์จากเป้าหมาย 17.6 ล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น
ราคาปัจจุบัน: 1 $PEPU = 0.00995 ดอลลาร์
ข้อดีหลักๆ ของการลงทุนใน $PEPU
- โอกาสในช่วงพรีเซล: นักวิเคราะห์คริปโต รวมถึง Jacob Crypto Bury คาดการณ์ว่าผู้ซื้อ $PEPU ในช่วงพรีเซลจะได้รับผลตอบแทนสูง โดยเน้นย้ำว่านี่เป็นจุดเข้าลงทุนที่ดี
- โอกาสสร้าง Passive Income: ฟีเจอร์ Staking มอบ APY 499% ช่วยให้ผู้ถือสามารถสร้าง Passive Income ได้มาก
- ความเชื่อมั่นของนักลงทุน: มีการ Staking เหรียญ $PEPU ไปมากกว่า 321 ล้านเหรียญแล้ว แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังคงแข็งแกร่ง และความเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของโปรเจกต์
- การลงทุนที่ปลอดภัย: Smart Contract ของ Pepe Unchained ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดจาก Coinsult และ SolidProof เพื่อความปลอดภัยของนักลงทุน
มุมมองในแง่ดีนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Jacob Crypto Bury ยูทูบเบอร์ด้านคริปโตที่มีชื่อเสียง ซึ่งคาดการณ์ว่าเหรียญมีมจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ และเน้นย้ำถึงผลประโยชน์ของการลงทุนในช่วงแรกของการพรีเซลในโปรเจกต์อย่าง Pepe Unchained
ไปที่หน้าเว็บไซต์พรีเซลของ Pepe Unchained
ข่าวเด่นห้ามพลาด
in numbers
