Bitcoin Policy Institute ร่างคำสั่งบริหารแผนสำรอง Bitcoin ของทรัมป์

สถาบันนโยบายบิตคอยน์ หรือ Bitcoin Policy Institute เสนอร่างคำสั่งบริหารสำหรับ Strategic Bitcoin Reserve หรือแผนสำรองบิทคอยน์เชิงกลยุทธ์ในรัฐบาลทรัมป์

โดนัลด์ ทรัมป์เสนอแนวคิดจัดตั้ง Strategic Bitcoin Reserve เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พร้อมดึงดูดการลงทุนและวางตำแหน่งให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำด้านสินทรัพย์ดิจิทัล

สถาบัน Bitcoin Policy Institute ได้ยื่นข้อเสนอคำสั่งบริหารเพื่อจัดตั้งแผนสำรองบิทคอยน์เชิงกลยุทธ์ ภายใต้กองทุน Exchange Stabilization Fund (ESF) ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในรัฐบาลทรัมป์

หากแผนนี้ได้รับการอนุมัติ จะช่วยให้สหรัฐฯ มีบทบาทเป็นผู้นำระดับโลกในด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเน้นถึงบทบาทของบิทคอยน์ในฐานะ “ทองคำดิจิทัล” ซึ่งจะช่วยเพิ่มการลงทุน การใช้เทคโนโลยี และเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงิน

US เสนอแผนสำรอง Bitcoin เชิงกลยุทธ์ เพื่อเสริมเศรษฐกิจและปกป้องค่าเงินดอลลาร์

ข้อเสนอนี้เน้นถึงความจำเป็นที่สหรัฐฯ จะต้องปรับตัวให้เข้ากับบทบาทที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ดิจิทัลในระบบการเงินโลก โดย Bitcoin (BTC) ซึ่งเป็นสินทรัพย์แบบกระจายศูนย์และมีจำนวนจำกัด ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างเศรษฐกิจและปกป้องค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

คำสั่งบริหารนี้มีเป้าหมายเพื่อกระจายการถือครองทรัพย์สินของ ESF และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว โดยกำหนดให้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์อย่างเป็นทางการ

JUST IN: Bitcoin Policy Institute drafts Executive Order for a Strategic Bitcoin Reserve for President Trump 🇺🇸 pic.twitter.com/bxJHZKa8Ue

— Bitcoin Magazine (@BitcoinMagazine) December 17, 2024

นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวยังระบุให้จัดตั้ง Strategic Bitcoin Reserve (SBR) เพื่อบริหารจัดการ BTC ในฐานะทรัพย์สินของชาติอย่างยั่งยืน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ดูแล และจะมีมาตรการที่เข้มงวดเพื่อรับรองความโปร่งใสและความรับผิดชอบในกระบวนการ มีการตรวจสอบบัญชีอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงโปรโตคอลความปลอดภัยขั้นสูงและรายงานอย่างครอบคลุมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่สาธารณะ

คำสั่งนี้ยังเรียกร้องให้มีการรวบรวมบิทคอยน์ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลกลางในขณะนี้ และภายในเจ็ดวัน หน่วยงานต่าง ๆ เช่น U.S. Marshal Service จะต้องหยุดการขาย การประมูล หรือการโอน Bitcoin

เมื่อมีการยืนยันความเป็นเจ้าของตามกฎหมาย ทรัพย์สินดังกล่าวจะถูกย้ายไปยัง Strategic Bitcoin Reserve

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะมีเวลา 60 วันในการดำเนินโครงการจัดซื้อ BTC เพื่อบริหารจัดการภายใต้ ESF

แผนสำรอง Bitcoin ของทรัมป์: Bitcoin ที่ยึดได้จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคการเงินใหม่?

ราคา Bitcoin พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง $107,000 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจาก Donald Trump ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมายืนยันแผนการจัดตั้งกองทุนสำรองบิทคอยน์แห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้สนับสนุนคริปโต

คลังสำรองเชิงกลยุทธ์ (Strategic Reserve) คือแหล่งสะสมทรัพยากรสำคัญที่ใช้รักษาเสถียรภาพของตลาดในช่วงวิกฤต ตัวอย่างเช่น คลังน้ำมันสำรองเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐฯ หรือคลังสำรองโลหะและธัญพืชของจีน

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มีความเห็นที่แตกต่างกันว่า Trump จะสามารถจัดตั้งคลังสำรองดังกล่าวได้เอง ผ่านคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีหรือไม่ หรือว่าจำเป็นต้องให้รัฐสภาอนุมัติ โดยทรัมป์เผยว่าโครงการนี้อาจจะเริ่มต้นด้วย BTC จำนวน 200,000 เหรียญที่รัฐบาลยึดมาได้ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าราว $2.1 หมื่นล้าน

การเพิ่มจำนวนบิทคอยน์อาจต้องดำเนินการผ่านการซื้อของรัฐบาล ซึ่งอาจใช้วิธีออกตราสารหนี้หรือขายทองคำสำรองเพื่อจัดหาเงินทุน

ในขณะเดียวกัน Senator Cynthia Lummis ก็ได้เสนอร่างกฎหมายให้กระทรวงการคลังซื้อ บิทคอยน์จำนวน 200,000 เหรียญต่อปีเป็นเวลา 5 ปี โดยใช้กำไรจาก Federal Reserve และการขายทองคำสำรองที่มีอยู่

บรรดาผู้สนับสนุนเชื่อว่าการสร้าง Bitcoin reserve อาจจะช่วยให้สหรัฐฯ ครองความได้เปรียบในตลาดโลก ลดการขาดดุล และเสริมความแข็งแกร่งให้กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ