Bitcoin & Ethereum ร่วงหนัก เผชิญการชำระบัญชีเกือบ $900M

ตลาดคริปโตเผชิญความผันผวนอย่างหนัก Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) ราคาตก หลังจากมีการชำระบัญชี (Liquidation) มูลค่ารวม $888.39M ซึ่งส่งผลกระทบต่อเทรดเดอร์กว่า 286,534 ราย ตามข้อมูลจาก CoinGlass
ตลาดคริปโตปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในวันอังคาร หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ยืนยันว่าจะเดินหน้านโยบายจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาตามกำหนดในวันที่ 4 มีนาคม
การประกาศดังกล่าวจัดขึ้นในงานแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว โดย Trump ย้ำชัดว่าจะเรียกเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้าจากทั้งสองประเทศ และ 10% สำหรับทรัพยากรพลังงานจากแคนาดา เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และไฟฟ้า
ความเคลื่อนไหวนี้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับเสถียรภาพการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลให้เกิดการลดความเสี่ยงในตลาดการเงิน และแน่นอนว่าตลาดคริปโตเองก็ไม่รอด
ราคา BTC ลดลง 6% ต่ำกว่า $90,000 ขณะเดียวกัน ETH ก็ร่วงลง 11% สู่ระดับ $2,405
Bitcoin & Ethereum เจอแรงกดดันจากความเสี่ยงทั่วโลก ไม่ใช่แค่ปัญหาภาษี
James Toledano ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Unity Wallet แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบรรยากาศการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป โดยระบุว่า หลายคนเคยคาดหวังว่าราคา Bitcoin จะพุ่งสูงขึ้นหลังจากการเข้ารับตำแหน่งของ Trump
อย่างไรก็ตาม เขาชี้ว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้นักลงทุนลังเล ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดจากปัญหาภาษี ความไม่แน่นอนในยุโรปตะวันออก และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจาก AI ต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเยอรมนีก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มความไม่แน่นอนเช่นกัน
“อาจจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ตลาดขาดเหตุผลในด้านการกำหนดราคา” เขากล่าว
เทรดเดอร์กว่า 286,000 รายถูก Liquidation ท่ามกลางความผันผวนของตลาด
สถานการณ์ตลาดที่ปั่นป่วนนี้ดูจะยิ่งรุนแรงขึ้น เมื่อข้อมูลจาก CoinGlass เปิดเผยว่า มีเทรดเดอร์ถึง 286,534 รายที่ถูกชำระบัญชี หรือ Liquidation ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ารวม $888.39M โดยในจำนวนนี้ Long Position มีมูลค่า $815.38M ในขณะที่ Short Position อยู่ที่ $73.01M
Bitcoin และ Ethereum เป็นสองสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมีการ Liquidation มูลค่า $271.69M และ $192.53M ตามลำดับ
สินทรัพย์อื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ Solana ($90.62M), XRP ($38.25M) และ Dogecoin ($22.33M)
ความผันผวนนี้สะท้อนถึงความไม่แน่นอนในภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค รวมถึงแรงขายที่มาจากความตื่นตระหนก
นอกจากนี้ ยังมีอีกเหตุการณ์ที่ซ้ำเติมความไม่มั่นคงในตลาด นั่นก็คือการโจมตีด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่บนแพลตฟอร์ม Bybit
โดยมีรายงานว่าวอลเล็ต Ethereum ถูกแฮกและเสียหายมูลค่าถึง $1.4B ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลและเร่งขายสินทรัพย์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเพิ่มเติม
จากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงอย่างชัดเจน ดัชนี Crypto Fear & Greed Index ซึ่งวัดความรู้สึกของตลาดในช่วงเวลาหนึ่ง ลดลงมาอยู่ที่ 25 คะแนน ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์
สะท้อนถึงภาวะ ‘Extreme Fear’ ในหมู่นักเทรด ความกลัวต่อความเสี่ยงจากภาษี ความปลอดภัย และเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนได้กดดันตลาดคริปโตที่มีความผันผวนอยู่แล้วให้ยิ่งอ่อนแอลงไปอีก






