บิทคอยน์ รับแรงหนุนต่อเนื่อง แต่ทำไมราคาไม่ทะลุ $109K สักที?

บิทคอยน์ (Bitcoin) กำลังเผชิญกับแนวต้านสำคัญ และยังไม่ทะลุระดับ 109,000 ดอลลาร์ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าซื้อเพิ่มเติมอย่างเงียบๆ ของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ และการเติบโตของกลุ่มนักขุดในสหรัฐอเมริกาที่เข้ามามีบทบาทในตลาดมากขึ้น ซึ่งส่งสัญญาณบวกต่อเสถียรภาพและอนาคตของ BTC ในระยะยาว

El Salvador เดินหน้าเก็บ บิทคอยน์ ไม่สนข้อตกลง IMF

รัฐบาลของ El Salvador ได้เพิ่มการถือครองบิทคอยน์อย่างเงียบ ๆ อีก 240 BTC นับตั้งแต่การลงนามข้อตกลงเงินกู้มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์กับ IMF ในเดือนธันวาคม 2024 แม้ข้อตกลงดังกล่าวจะจำกัดไม่ให้ประเทศขยายการถือครองบิทคอยน์ แต่ช่องโหว่ของเงื่อนไขได้เปิดทางให้ประเทศสะสมเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมียอดรวมอยู่ที่ 6,209 BTC

🇸🇻 NEW: El Salvador has bought 240 $BTC since IMF non-accumulation agreement. pic.twitter.com/2zH5BdG2LR

— Cointelegraph (@Cointelegraph) June 16, 2025

กลยุทธ์ของประธานาธิบดี Nayib Bukele ในการซื้อบิทคอยน์วันละ 1 เหรียญยังคงดำเนินต่อ แม้จะไม่ได้ผ่านบัญชีทางการของรัฐก็ตาม

แม้ว่าปริมาณการไหลเข้าของคริปโตใน El Salvador จะลดลงถึง 44.5% เมื่อเทียบปีต่อปีในไตรมาสแรกของปี 2025 แต่การกระทำดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่า การยอมรับบิทคอยน์ในระดับประเทศยังคงดำเนินไปอย่างแข็งขัน ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในระยะยาว

นักขุดสหรัฐฯ คุมตลาด หนุนโครงสร้างพื้นฐาน บิทคอยน์ แกร่งขึ้น

รายงานจาก JPMorgan ระบุว่านักขุดบิทคอยน์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ตอนนี้ครองส่วนแบ่งการขุด (hashrate) ทั่วโลกถึง 31.5% ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมี Riot Platforms, Hive Technologies และ CleanSpark เป็นผู้นำ ด้วยการเพิ่มความจุ hashrate รวมกันถึง 99% เมื่อเทียบจากปีก่อน ในขณะที่การเติบโตของเครือข่ายอยู่ที่ 55%

🇺🇸 NEW: Davinci Jeremie claims “Bitcoin mining is becoming a geopolitical arms race now.”

Currently the US leads the way with 36% of the total hash rate. pic.twitter.com/ZZxD34kGOI

— Cointelegraph (@Cointelegraph) May 30, 2025

แม้ว่าราคาของ hash จะลดลงเล็กน้อย แต่มูลค่าของนักขุดกลับเพิ่มขึ้นถึง 2.4 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดย Riot Platforms มีส่วนแบ่งถึง 20% ของการเพิ่มขึ้นดังกล่าว

การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นถึงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในระดับสถาบันที่แข็งแกร่งขึ้นในอเมริกาเหนือ และสนับสนุนมุมมองที่ว่า บิทคอยน์ กำลังก้าวเข้าสู่การเป็นสินทรัพย์เต็มรูปแบบ

แนวโน้มทางเทคนิคของ BTC: การชะลอตัวที่ $108,950

ปัจจุบัน BTC ซื้อขายอยู่ที่เกือบๆ $107,000 เพิ่มขึ้น 0.21% ใน 1 วันที่ผ่านมา โดยกราฟ 1 ชั่วโมงแสดงให้เห็นว่าราคากำลังถอยจากแนวต้านรูปสามเหลี่ยมสมมาตรที่ $108,951

ไส้เทียนด้านบนที่ยาวบนแท่งเทียนปฏิเสธราคา ประกอบกับสัญญาณ MACD ขาลง บ่งชี้ถึงแรงเคลื่อนไหวที่เริ่มอ่อนตัว

แนวรับสำคัญขณะนี้อยู่ที่เส้น EMA 50 ($106,656) และแนวรับแนวนอนที่ $106,196 และ $104,633 หากราคาหลุดต่ำกว่าระดับเหล่านี้ อาจลดลงเพิ่มเติมไปที่ $103,132 ได้

ระดับที่ต้องจับตามอง:

• แนวต้าน: $108,951, $110,406
• แนวรับ: $106,196, $104,633, $103,132

กลยุทธ์การเทรด:

• ฝั่งขาขึ้น: เปิดสถานะ Long หาก BTC กลับมายืนเหนือ $109K พร้อมปริมาณการซื้อขายที่ชัดเจน
• ฝั่งขาลง: เปิดสถานะ Short หากราคาหลุด $106,196 โดยมีเป้าหมายใกล้ $104,633

แม้จะมีข่าวเศรษฐกิจมหภาคในเชิงบวก แต่การเคลื่อนไหวของราคายังคงอยู่ในกรอบแคบ ทำให้การคาดการณ์ราคาบิทคอยน์ยังคงเป็นกลาง ซึ่งในขณะนี้ ความอดทนและความแม่นยำถือเป็นสิ่งสำคัญ

จับตา Bitcoin Hyper: Layer-2 มาแรง

ท่ามกลางความไม่แน่นอนนี้ โปรเจกต์ใหม่ที่น่าสนใจอย่าง Bitcoin Hyper ($HYPER) ซึ่งเป็น Layer-2 บนเครือข่ายบิทคอยน์ที่ใช้เทคโนโลยี Solana Virtual Machine (SVM) กำลังมาแรง

Bitcoin Hyper เป็น Layer 2 ตัวแรกที่สร้างบน Bitcoin โดยใช้ SVM ซึ่งนำเสนอสัญญาอัจฉริยะที่รวดเร็วและมีต้นทุนต่ำสู่ระบบนิเวศ ด้วยการผสานความปลอดภัยของ บิทคอยน์ และความสามารถในการขยายตัวของ SVM เข้าด้วยกัน ช่วยให้สามารถพัฒนา dApps, meme coins และระบบการชำระเงินได้อย่างรวดเร็ว พร้อมค่าธรรมเนียม gas ที่ถูก และการเชื่อมต่อที่ราบรื่น

โปรเจกต์นี้ผ่านการตรวจสอบโดย Consult แล้ว และยังถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความเร็ว ความน่าเชื่อถือ และการขยายตัว ปัจจุบันมีการ stake $HYPER แล้วกว่า 91 ล้านเหรียญ โดยคาดการณ์ผลตอบแทนหลังเปิดตัวที่ประมาณ 565% APY ซึ่งโทเคนนี้จะใช้สำหรับค่าธรรมเนียม gas, การเข้าถึง dApps และการกำกับดูแล

Presale รองรับทั้งการชำระผ่านคริปโตและบัตรเครดิต และด้วยระบบ Web3 Payments ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีวอลเล็ต การผสมผสานระหว่างเสน่ห์ของเหรียญมีมใหม่ และประโยชน์ใช้งานจริง ทำให้ Bitcoin Hyper อาจกลายเป็นดาวเด่นของ Layer 2 ในปี 2025 นี้

โดยรวมแล้ว แม้ว่าราคาบิทคอยน์ในระยะสั้นจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบและเผชิญกับแนวต้านสำคัญ แต่ปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง ทั้งจากการยอมรับในระดับประเทศอย่างเอลซัลวาดอร์ และการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานจากกลุ่มนักขุดในสหรัฐฯ ประกอบกับการเกิดขึ้นของนวัตกรรมใหม่อย่าง Bitcoin Hyper ที่ช่วยขยายระบบนิเวศ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นแรงส่งสำคัญที่ทำให้นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นในอนาคตของบิทคอยน์