Bitcoin ร่วง! หลังทำราคาไม่พ้น 1 แสนดอลลาร์ – เช่นเดียวกับนักลงทุน ที่เริ่มทำกำไร

ล่าสุด Bitcoin กำลังเผชิญกับช่วงขาลงครั้งใหญ่ในรอบเดือนที่ผ่านมา หลังจากล้มเหลวในการทำราคายืนเหนือระดับ $100,000 โดยในปัจจุบัน Bitcoin มีการทำราคาอยู่ที่ประมาณ $93,000 ซึ่งลดลงกว่า 5% ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งรวมไปถึงตลาดคริปโตทั้งหมดที่มีการทำราคาลดลง 3.8% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สาเหตุที่ Bitcoin ร่วง!
เรียกได้ว่า ในช่วงที่บิทคอยน์พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดเดือนที่ผ่านมา มีนักลงทุนระยะยาวจำนวนมากที่เริ่มเทขายเหรียญเพื่อทำกำไรได้แสวงหากำไรจากการถือครองของพวกเขา โดยตามข้อมูลจาก Galassnode พบว่าการขายของนักลงทุนระยะยาวเหล่านี้ ทำให้เกิดแรงกดดันในการขายที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ตั้งแต่เดือนเมษายน 2024
โดยข้อมูลพบว่าผู้ที่ทำการเทขาย Bitcoin ในช่วงนี้ส่วนมากเป็นกลุ่มนักลงทุนระยะยาวที่ถือครองระหว่าง 6-12 เดือน โดยเฉลี่ยการขายเหรียญอยู่ที่ 25.6K BTC ต่อวันในรูปแบบของกำไร
นอกจากนี้ เรียกได้ว่าเหล่านักลงทุนที่ถือครอง Bitcoin มาไม่ต่ำกว่า 6-12 เดือน มีต้นทุนเฉลี่ยที่ต่ำกว่าราคาตลาดถึง 71% จากการซื้อเหรียญในราคาประมาณ $57.9K เท่านั้น ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวผลกำไรจากการปรับตัวขึ้นของ Bitcoin ที่ทะยานจาก $74K สู่ $99K ได้อย่างมหาศาล
Spot Bitcoin ETFs ช่วยพยุงแรงขายที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้เรียกได้ว่า กองทุน ETF ประเภท Spot Bitcoin ก็ถือเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยดูดซับแรงขายจากราคา Bitcoin ร่วง ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จากการที่มียอดเงินไหลเข้ากว่า $7 พันล้านในกองทุน หลังการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ส่งผลให้สินทรัพย์รวมของ ETF เหล่านี้เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า $105 พันล้าน
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน กองทุน Bitcoin Spot ETFs ภายในสหรัฐ ได้พบการไหลออกสุทธิที่ $438 ล้าน โดยที่กองทุน ETF ของ Bitwise เป็นผู้นำการไหลออกด้วยยอดเงินติดลบ $280 ล้าน ขณะที่ BlackRock’s IBIT มีการไหลเข้าสุทธิ $267 ล้านในวันเดียวกัน ตามข้อมูลจาก SoSoValue






