BTC พุ่งแรงแตะ $106K ก่อนแผ่วลง $103K – กระทิงหมีมึนตึ้บ!

BTC (หรือ Bitcoin) ผันผวนหนัก พุ่งขึ้นไปแตะระดับ $106,000 อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะร่วงกลับมาอยู่ที่ระดับ $103,000 ในวันเดียวกัน เหตุการณ์นี้ทำให้นักลงทุนทั้งฝั่งขาขึ้น (Bulls) และขาลง (Bears) ต่างตกอยู่ในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง และส่งผลให้มีการชำระบัญชีในตลาดอนุพันธ์ มูลค่ากว่า $600 ล้าน
บทความนี้จะเจาะลึกถึงสาเหตุของความผันผวนครั้งนี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้น และแนวโน้มของตลาด Bitcoin ในอนาคต
BTC พุ่งแล้วร่วง: เกิดอะไรขึ้นกับกลไกตลาด & การชำระบัญชี?
ในช่วงเช้าของวันที่ 19 พฤษภาคม ราคา Bitcoin ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่า $2,500 ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ซึ่งปรากฏการณ์นี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ เนื่องจากสภาพคล่องในตลาดมีน้อย และอาจเกิดจากคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติที่ถูกกระตุ้นโดยระดับราคาทางเทคนิค
การเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็วนี้เป็นผลมาจาก Short Squeeze ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนที่เดิมพันว่าราคาจะลดลง (Short Sellers) ถูกบังคับให้ซื้อ Bitcoin กลับคืนเพื่อปิดสถานะเพื่อลดการขาดทุน ซึ่งยิ่งเป็นการผลักดันให้ราคาสูงขึ้นไปอีก ตามมาด้วยการเทขายทำกำไรของนักลงทุน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนในสถานะ Long เสียหายกว่า $460 ล้าน และในสถานะ Short เสียหายกว่า $220 ล้าน โดยกระทบถึงตลาดอนุพันธ์ของคริปโตหลักอย่าง Ether (ETH), Solana (SOL) และ Dogecoin (DOGE)
ปรากฏการณ์การล้างพอร์ตครั้งนี้ถือว่าน่าสนใจ เนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงเวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ตลาดมักจะเงียบสงบ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่อาจชี้ถึงการซื้อขายหรือขายที่ถูกบังคับโดยผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด
ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าราคา SOL, DOGE และ XRP ลดลงมากกว่า 4% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในขณะที่ดัชนี CoinDesk (CD20) ลดลงมากกว่า 2%
ปัจจัยภายนอก: ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค
ความผันผวนของราคา Bitcoin เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Moody’s ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐอเมริกา (U.S. Credit Rating) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อก็กลับมาอีกครั้งหลังจากข้อมูลเศรษฐกิจผสมปนเปกันมั่วไปหมด
การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ยังส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี (U.S. 30-Year Treasury Yields) ทะลุระดับ 5% อีกด้วย
แม้ตลาดคริปโตจะได้รับประโยชน์จากกระแสเงินทุนจากสถาบันและแรงสนับสนุนจาก Spot ETF แต่บรรดานักลงทุนยังคงระมัดระวังกับระดับราคาปัจจุบันอยู่
โดยเฉพาะหลังจากที่ BTC ไม่สามารถยืนเหนือระดับ $106,000 ได้ ซึ่งเป็นระดับสำคัญทั้งทางจิตวิทยาและเทคนิค โดย Alex Kuptsikevich จาก FxPro กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนบางรายคาดการณ์ว่าความผันผวนของตลาดอาจจะเพิ่มขึ้นในอีกในไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนสำหรับผู้ที่มีแผนจะใช้ Leverage เพื่อเพิ่มผลกำไร
“นักลงทุนกำลังโยกย้ายเงินทุนไปยัง Bitcoin เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับร่างกฎหมายการใช้จ่ายของสหรัฐฯ ที่อาจเพิ่มหนี้สินหลายล้านล้านดอลลาร์ และดันให้เบี้ยพันธบัตรเพิ่มสูงขึ้น” Haiyang Ru ผู้ร่วมเป็น CEO ของ HashKey Business Group กล่าวกับ CoinDesk ผ่าน Telegram
“แต่ในขณะที่ Bitcoin เคลื่อนไหวใกล้จุดสูงสุดใหม่ เราคาดการณ์ว่าตลาดจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากนักลงทุนกำลังเตรียมตัวสำหรับข้อตกลงการค้าใหม่และนโยบายการคลังฉบับสุดท้าย” Ru กล่าวเสริม
โดยสรุปก็คือ ตลาด BTC ประสบกับความผันผวนอย่างรุนแรง โดยราคาพุ่งขึ้นไปที่ $106,000 ก่อนที่จะร่วงกลับมาที่ $103,000 การเคลื่อนไหวนี้ส่งผลให้เกิดการชำระบัญชีในตลาดอนุพันธ์มูลค่ากว่า $600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจัยที่ขับเคลื่อนความผันผวน ได้แก่ กลไก Short Squeeze, การเทขายทำกำไร และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค นักลงทุนควรระมัดระวังและเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนในอนาคตอันใกล้นี้






- Dogecoin ร่วงแรงแต่นักวิเคราะห์ตรวจพบสัญญาณฟื้นตัว
- Solaxy ยืนยันกำหนดการเปิดตัว! ระดมทุนไปแล้ว 54 ล้านดอลลาร์ — เหลือ 4 วันสุดท้ายให้ซื้อ SOLX ก่อนราคาพุ่ง
- คาดการณ์ราคา XRP, Dogecoin และ Shiba Inu — 19 มิถุนายน 2025
- Ripple และ SEC ขอให้ผู้พิพากษา Torres รับรองข้อตกลงและยุติคดี XRP
- วาฬสะสม XRP ทุบสถิติ! ลุ้นราคาพุ่งแตะ $4 อย่างร้อนแรง







- Dogecoin ร่วงแรงแต่นักวิเคราะห์ตรวจพบสัญญาณฟื้นตัว
- Solaxy ยืนยันกำหนดการเปิดตัว! ระดมทุนไปแล้ว 54 ล้านดอลลาร์ — เหลือ 4 วันสุดท้ายให้ซื้อ SOLX ก่อนราคาพุ่ง
- คาดการณ์ราคา XRP, Dogecoin และ Shiba Inu — 19 มิถุนายน 2025
- Ripple และ SEC ขอให้ผู้พิพากษา Torres รับรองข้อตกลงและยุติคดี XRP
- วาฬสะสม XRP ทุบสถิติ! ลุ้นราคาพุ่งแตะ $4 อย่างร้อนแรง