Bitcoin ทำตลาดแตก! พุ่งสู่ Banana Zone: Bull Run รอบนี้แตกต่างยังไง

Bitcoin ทะยานเข้าสู่ ‘Banana Zone’ ทำไมขาขึ้นรอบนี้ถึงไม่เหมือนเดิม?

ราคา BTC พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทะลุระดับสูงสุดใหม่ที่ 111,800 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา กลายเป็นหัวข้อหลักในไลฟ์สตรีม “Drinks With Raoul” ที่มีความยาว 2 ชั่วโมงของ Raoul Pal อดีตนักกลยุทธ์มาโครของกองทุนเฮดจ์ฟันด์และผู้ร่วมก่อตั้ง Real Vision

Pal เชื่อมั่นว่าการปรับตัวขึ้นครั้งนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น “Banana Zone ได้เริ่มต้นแล้ว ใช่ครับ BTC ทำจุดสูงสุดใหม่ ถัดไปก็เป็นคิวของ alts… อย่าลืมสะสม BTC ไว้ให้พร้อม”

Pal อธิบายว่า “Banana Zone” เป็นช่วงที่สภาพคล่องบีบให้นักลงทุนต้องรับความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งเขาเชื่อว่าสภาพคล่องนี้ไม่ได้มาจากเงินเฟ้อ แต่เกิดจากการแทรกแซงนโยบายในตลาดพันธบัตรที่กำลังจะมาถึง…

ทำไมตลาดกระทิงของ Bitcoin รอบนี้ถึงแตกต่าง?!

เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ทะยานกลับไปอยู่เหนือ 4.4% Pal ชี้ว่า การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการขาดแคลนหลักประกันในตลาด มากกว่าจะเป็นการแสดงถึงราคาที่ร้อนแรงเกินไป

“อัตราผลตอบแทนพันธบัตรกำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วไม่ใช่สัญญาณที่ดี… แต่เงินเฟ้อกำลังลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวกับสภาพคล่องล้วน ๆ เพราะเมื่อตลาดพันธบัตรขาดสภาพคล่อง และเมื่ออัตราผลตอบแทนสูงเกินไป รัฐบาลก็มักจะตอบสนองด้วยการพิมพ์เงินเพิ่มตลอด”

เขาคาดการณ์ว่า Federal Reserve อาจผ่อนปรนกฎเกณฑ์ Supplementary Leverage Ratio (SLR) เพื่อให้ธนาคารหลักสามารถดูดซับพันธบัตร หรืออาจใช้มาตรการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve Control) ในรูปแบบใหม่

“ภายในเดือนกรกฎาคม พวกเขาน่าจะใช้ SLR เพื่อให้ธนาคารถือพันธบัตรได้มากขึ้น ซึ่งเท่ากับบอกว่า ‘เก็บพันธบัตรไว้ในงบดุล แล้วเพิ่มเลเวอเรจในระบบ’ และถ้าไม่พอก็อาจสร้างคำย่อสี่ตัวใหม่เพื่อทำให้ดูเหมือนมาตรการใหม่”

Pal อธิบายเพิ่มเติมว่า มาตรการเช่นนี้จะช่วยลดความเสี่ยงด้านลบ และขับเคลื่อนสินทรัพย์ที่มีจำกัดให้พุ่งสูงขึ้น “นี่เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2017 หุ้น ทองคำ และโดยเฉพาะ BTC ต่างพุ่งทะยานขึ้น”

เขายังได้พูดถึงกราฟเปรียบเทียบค่าเงินดอลลาร์โดยละเอียด: “สมัยแรกของ Trump ค่าเงินดอลลาร์ร่วงอย่างรุนแรง ลองดูสิ ตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นอีกครั้งในจังหวะที่เร็วกว่า… ดอลลาร์ที่อ่อนค่าเป็นกุญแจสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก เพราะการร่วงลงของดอลลาร์ในอดีตทำให้ BTC มีผลตอบแทน 12 เดือน อยู่ที่ 119%, 175%, หรือแม้แต่ 592% นี่คือผลกระทบจากตัวหาร”

Pal ยังปัดความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าด้วยการมองว่าเป็นเพียงกลยุทธ์เจรจา: “มันเป็นแค่การพูดคุยเรื่องเงื่อนไข พวกเขาจะหาข้อตกลงที่สมเหตุสมผล เพราะสหรัฐฯ ไม่ได้อยากสร้างความเสียหายต่อการค้า แต่ต้องการขายพันธบัตรมากกว่า”

Ethereum, Solana, SUI, Dogecoin และเป้าหมาย BTC ที่ $140,000!

นอกจากความสำเร็จของ BTC แล้ว Pal ยังมองว่า Ethereum และ Layer-1 ที่มีความเสี่ยงสูงจะทำผลงานได้ดีกว่าเมื่อดัชนี ISM Manufacturing Index ฟื้นตัวขึ้น (ซึ่งปัจจุบันอยู่ต่ำกว่า 50)

“ดัชนี Financial Conditions ที่ผมติดตามกำลังพุ่งสูง และนำหน้า ISM อยู่ประมาณ 9 เดือน เมื่อ ISM กลับมายืนเหนือระดับ 50 นั่นแหละคือช่วงที่ ‘alt-season’ จะเริ่ม
ตอนนี้อัตราส่วน ETH-BTC กำลังสร้างฐาน และ Bitcoin dominance ก็ถึงจุดสูงสุดแล้ว”

นอกจากนี้ เขายังชี้ไปที่กราฟของ Solana และ Sui ที่กำลังแสดงรูปแบบ “cup-and-handle” ที่ชัดเจน พร้อมกับแซว Dogecoin ด้วยน้ำเสียงติดตลกว่า “ผลลัพธ์ที่ตลกที่สุดคือ Doge แซงหน้า BTC ตั้งแต่เริ่มต้น และกลายเป็นสกุลเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ใครหลายคนคงไม่ชอบใจ แต่กราฟบอกว่ามันเป็นไปได้”

ทั้งนี้ แม้จะมองสถานการณ์ในแง่ดี แต่ Pal ได้ให้คำเตือนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ต้องจับตา โดยอิงจากโมเดล global-M2 ของเขา

“สภาพคล่องบอกว่าเราน่าจะเห็นราคา BTC เกิน $140,000 ภายในเดือนกรกฎาคม แต่ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม อาจเกิดการปรับฐานแบบ sideways เนื่องจากดอลลาร์รีบาวด์ นี่อาจเป็นจังหวะที่คุณจะขายเอากำไรเพื่อเอามาซื้อไลฟ์สไตล์ ถ้าคุณต้องการ แต่ภาพรวมรอบใหญ่ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง”

บทสรุปของ Raoul Pal: สภาพคล่อง, ดอลลาร์ที่อ่อนค่า และตลาดตราสารหนี้

เขาย้ำว่า Banana Zone นี้จะดำเนินไปจนถึงปี 2026 หากไม่มีนโยบายที่ไม่คาดคิดเข้ามาแทรกแซง “ทุกครั้งมีคนบอกว่าผลตอบแทนลดลง แต่ทุกครั้งพวกเขาก็คิดผิด”

ในมุมมองของ Pal ทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกันด้วย 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ สภาพคล่องที่ขับเคลื่อนด้วยนโยบาย ดอลลาร์ที่อ่อนแอลงในเชิงโครงสร้าง และการจัดการตลาดพันธบัตรที่ผลักดันเงินทุนเข้าสู่สินทรัพย์หายาก แม้ว่าใครจะมองว่า “Banana Zone” เป็นแค่คำเรียกเล่น ๆ แต่ตลาดกำลังเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน

“ตั้งแต่จุดต่ำสุดในปี 2022 ผมเล่าเรื่องนี้มาโดยตลอด และโชคดีที่มันถูกต้อง” เขาสรุป “คุณอาจไม่ต้องเชื่อคำแนะนำเรื่องไวน์ของผม แต่ถ้าเป็นกราฟสภาพคล่องอย่าได้มองข้าม”

สำหรับนักลงทุน ถ้าตลาดพันธบัตรบีบให้ Fed ต้องผ่อนนโยบาย แนวโน้มราคา Bitcoin (และในไม่ช้า อาจรวมถึง ETH กับเหรียญอื่น ๆ) ก็ยังคงเป็นขาขึ้น

ขณะที่เขียนบทความนี้ ราคา BTC อยู่ที่ประมาณ $111,300 ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 1.3% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

โดยสรุป Bitcoin ทะยานสู่ระดับสูงสุดใหม่ ท่ามกลางการคาดการณ์ของ Raoul Pal เกี่ยวกับ ‘Banana Zone’ ที่ขับเคลื่อนด้วยสภาพคล่องและนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ แม้จะมีความผันผวนในระยะสั้น แนวโน้มระยะยาวจนถึงปี 2026 ยังคงเป็นขาขึ้น โดยมีศักยภาพสำหรับ altcoin ที่เราต้องจับตาดูเช่นกัน