เจ้าพ่อไอที Michael Saylor ประกาศลุยซื้อ Bitcoin ต่อเนื่อง 3 ปี

MicroStrategy บริษัทไอทีชื่อดังที่นำโดย Michael Saylor ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร ได้ประกาศแผนระดมทุนเพิ่มอีก 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยมีจุดประสงค์เพื่อซื้อ Bitcoin เพียงอย่างเดียว
แผนการที่เรียกว่า “21/21” นี้จะเกี่ยวข้องกับการระดมทุน 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์จากส่วนของผู้ถือหุ้น และอีก 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์จากตราสารหนี้ เพื่อสนับสนุนการซื้อ Bitcoin อย่างต่อเนื่อง
ในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม MicroStrategy ได้เน้นย้ำความตั้งใจที่จะเสริมความแข็งแกร่งในฐานะบริษัทคลัง Bitcoin
MicroStrategy จะจัดสรรเงินทุนใหม่เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจาก Bitcoin
Phong Le ประธานและซีอีโอของบริษัท กล่าวเน้นย้ำว่า เงินทุนนี้จะถูกจัดสรรอย่างมีกลยุทธ์เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจาก Bitcoin
“เป้าหมายของเราคือใช้เงินทุนใหม่นี้เพื่อซื้อ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองในคลังสำรองแบบที่สามารถสร้างผลตอบแทนจาก BTC ที่สูงขึ้นได้” เขากล่าว
ปัจจุบัน MicroStrategy มีผลตอบแทนรายปีจากการถือ Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 17.8% โดยคาดว่าจะได้ผลตอบแทน 6-10% ต่อปีในช่วงปี 2025-2027
ที่ราคา Bitcoin ปัจจุบันประมาณ 70,714 ดอลลาร์ การลงทุนตามแผนการนี้อาจจะแปลงเป็น Bitcoin ได้ประมาณ 578,586 BTC คิดเป็น 2.7% ของปริมาณ Bitcoin ทั้งหมด
กลยุทธ์นี้ได้สร้างความสนใจอย่างมากในชุมชนคริปโต
BitcoinMiningStockGuy นักวิจารณ์ด้านคริปโตชื่อดังได้แสดงความเห็นในแง่บวก โดยเปรียบเทียบแผนการอัดฉีดเงิน 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ของ MicroStrategy กับมูลค่าตลาดรวมทั้งหมดของนักขุด Bitcoin สาธารณะ
Ryan McGinnis นักวิจัยด้านความผันผวนเชิงปริมาณ เรียกแผนการนี้ว่า “Escape Velocity” โดยคาดการณ์ว่าจะเกิดช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่าง MicroStrategy กับบริษัทอื่นๆ หรือแม้แต่กับประเทศต่างๆ ในเรื่องการถือครอง Bitcoin
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ MicroStrategy ต่อเนื่องจากการระดมทุนรอบ Private Offering มูลค่า 1.01 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งปิดการขายไปเมื่อวันที่ 19 กันยายน เป็นการระดมทุนมาเพื่อซื้อ Bitcoin โดยเฉพาะ
นี่เป็นอีกก้าวหนึ่ในการสร้างประวัติศาสตร์ให้กับบริษัท ในฐานะหนึ่งในนักลงทุนสถาบันที่สนับสนุน Bitcoin อย่างจริงจังมากที่สุด
บริษัทหลายแห่งเริ่มหันมาใช้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง
ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคที่กำลังดำเนินอยู่ ทั้งแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้ผู้จัดการการเงินขององค์กรต่างๆ พิจารณาในเรื่องการนำ Bitcoin มาเป็นสินทรัพย์สำรอง
เมื่อเร็วๆ นี้ Abra แพลตฟอร์มบริการสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำ ได้เปิดตัวบริการสำหรับบริษัทที่ต้องการถือครองคริปโตเคอเรนซีเป็นสินทรัพย์สำรองในงบดุลของพวกเขา
เช่นเดียวกัน Metaplanet บริษัทลงทุนของญี่ปุ่นได้เพิ่มการถือครอง Bitcoin อย่างต่อเนื่องมานับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม หลังจากที่พวกเขาประกาศแผนการในการใช้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดจากความท้าทายทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น รวมถึงหนี้รัฐบาลที่สูง อัตราดอกเบี้ยที่ติดลบ และเงินเยนที่อ่อนค่าลง
นอกจากการซื้อ Bitcoin แล้ว Metaplanet ยังเปิดเผยว่าจะใช้สิทธิในการซื้อหุ้น สร้างเงินทุน 299.7 ล้านเยนเพื่อซื้อ Bitcoin เพิ่มเติม
บริษัทยังได้ประกาศความร่วมมือกับ SBI VC Trade บริษัทลูกด้านคริปโตของ SBI Group เพื่อเข้าถึงบริการดูแลสินทรัพย์สำหรับองค์กรที่เพิ่มประสิทธิภาพด้านภาษีและให้ทางเลือกด้านการเงินโดยใช้ Bitcoin เป็นหลักประกัน
เมื่อต้นเดือนนี้ บริษัทระดมทุนได้ประมาณ 1 หมื่นล้านเยน (66 ล้านดอลลาร์) ผ่านการเสนอขายสิทธิซื้อหุ้น โดยดึงดูดผู้ถือหุ้นรายย่อยได้มากกว่า 13,774 ราย






