Michael Saylor เปิดเผยว่า เขาถือครอง Bitcoin มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์
Michael Saylor ประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท MicroStrategy เปิดเผยว่า เขามีการถือครอง Bitcoin เป็นการส่วนตัวเป็นมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
ในการให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg Saylor เปรียบ Bitcoin เป็น “แมนฮัตตันในโลกไซเบอร์” โดยเน้นย้ำว่าการลงทุนในสินทรัพย์ชั้นดีเป็นการตัดสินใจที่ดีเสมอ
แต่เขาไม่ได้มีการเปิดเผยจำนวน Bitcoin ที่ถือครองอย่างแน่ชัด
อย่างไรก็ตาม ในโพสต์บน X เมื่อปี 2020 เขาเคยเปิดเผยว่า เขาถือครองรวม 17,732 BTC ซึ่งตอนแรกเขาซื้อมาด้วยราคาประมาณ 175 ล้านดอลลาร์
Some have asked how much #BTC I own. I personally #hodl 17,732 BTC which I bought at $9,882 each on average. I informed MicroStrategy of these holdings before the company decided to buy #bitcoin for itself.
— Michael Saylor⚡️ (@saylor) October 28, 2020
Saylor เน้นย้ำถึงความเหนือกว่า
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ Michael Saylor ได้เน้นย้ำถึงความเหนือกว่าของ Bitcoin เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทางกายภาพและทางการเงิน โดยชื่นชมศักยภาพในการสร้างความมั่งคั่งให้กับบุคคล บริษัท และประเทศต่างๆ
เขายังพูดถึงตลาดที่ตกต่ำล่าสุดที่ส่งผลกระทบต่อราคา BTC โดยบอกว่า ความผันผวนเช่นนี้เป็นธรรมชาติของ Bitcoin
Saylor กล่าวว่า “ความผันผวน [ของ Bitcoin] สร้างเครดิตและสภาพคล่องหลายหมื่นล้านดอลลาร์ตลอดเวลา ให้กับพื้นที่และทุกคนในโลกในระยะสั้น”
นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่าความผันผวนในระยะยาวผลักดันให้เกิด “ประสิทธิภาพและความคงทนของสินทรัพย์ที่เหนือกว่า”
MicroStrategy บริษัทที่เขาเป็นผู้นำ ก็ลงทุนใน Bitcoin จำนวนมากเช่นกัน
ณ ตอนนี้ MicroStrategy ถือครอง Bitcoin อยู่ประมาณ 226,500 เหรียญ เป็นมูลค่าประมาณกว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มราคาหุ้นของบริษัท แต่ยังทำให้บริษัทกลายเป็นผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้น
ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในงาน Bitcoin Conference เมื่อไม่นานมานี้ Saylor คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดของ Bitcoin อาจจะพุ่งสูงถึง 280 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2045
เขาโต้แย้งว่า Bitcoin ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 0.1% ของความมั่งคั่งทั่วโลก มีศักยภาพที่จะไปถึง 7% ในสถานการณ์พื้นฐานทั่วไป ซึ่งหมายความว่าราคา Bitcoin จะอยู่ที่ 13 ล้านดอลลาร์ต่อเหรียญ
ในสถานการณ์ที่เป็นไปในเชิงบวกกว่านี้ เขาคาดการณ์ว่า Bitcoin อาจจะครองส่วนแบ่งความมั่งคั่งทั่วโลกได้ถึง 22% โดยแต่ละเหรียญอาจจะมีมูลค่าได้สูงถึง 49 ล้านดอลลาร์
จุดยืนในเชิงบวกของ Saylor ที่มีต่อ Bitcoin ตั้งอยู่บนความเชื่อของเขาที่ว่า สกุลเงินดิจิทัลนี้เป็น Store of Value (สินทรัพย์ที่ใช้ในการกักเก็บมูลค่า) ที่น่าเชื่อถือกว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิม
เขาเน้นย้ำว่ามูลค่าของ Bitcoin ไม่ได้ถูกทำให้เจือจางลงโดยวิกฤตทางการเมืองหรือเศรษฐกิจ ไม่เหมือนกับสกุลเงินธรรมดาและสินทรัพย์ทางกายภาพ
คลังสำรอง Bitcoin คือ “ช่วงเวลาแห่งการซื้อลุยเซียนา”
เมื่อไม่นานมานี้ Saylor เปรียบเทียบแนวคิดที่สหรัฐฯ จะซื้อ “คลังสำรองเชิงกลยุท์” ของ Bitcoin เป็นเหมือน “ช่วงเวลาการซื้อดินแดนหลุยเซียนา”
ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม Saylor แสดงการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อร่างกฎหมาย BITCOIN Act ที่เสนอโดย Cynthia Lummis วุฒิสมาชิกจากรัฐไวโอมิง
กฎหมายนี้จะกำหนดให้กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ค่อยๆ สะสม Bitcoin 1 ล้านเหรียญ ซึ่งคิดเป็นเกือบ 5% ของจำนวน Bitcoin ทั้งหมด
Traditional finance operates 19% of the time. Capital, like air & water, should be available 100% of the time. #Bitcoin is available to everyone, everywhere, all the time. pic.twitter.com/W3RO7CRq8V
— Michael Saylor⚡️ (@saylor) August 6, 2024
Saylor เปรียบเทียบเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์โดยอ้างอิงถึงการซื้อดินแดนหลุยเซียนาของ Thomas Jefferson ด้วยเงิน 15 ล้านดอลลาร์ในปี 1803 ซึ่งเพิ่มขนาดของสหรัฐฯ เกือบเท่าตัว
เขาอธิบายว่า Bitcoin เป็น “ทรัพย์สินดิจิทัลที่หายากและน่าปรารถนา” และโต้แย้งว่าการแลกเปลี่ยนเงินหรือกระดาษจำนวนเล็กน้อยกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่คนนับพันล้านจะต้องการเป็นเจ้าของในอีก 100 ปีข้างหน้าเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม
“Bitcoin เป็นทรัพย์สินดิจิทัลที่หายากและน่าปรารถนา มันเป็นไอเดียที่ดีมากที่จะแลกเปลี่ยนเงินหรือกระดาษจำนวนเล็กน้อยกับสิ่งที่คนนับพันล้านจะต้องการครอบครองในอีก 100 ปีข้างหน้า”






