เทรดเดอร์สาย Long สูญเงินกว่า 420 ล้านดอลลาร์ เมื่อราคา Bitcoin ร่วงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
การเปิดเผยโฆษณา
เรามุ่งมั่นในการสร้างความโปร่งใสอย่างเต็มที่กับผู้อ่านของเรา บางเนื้อหาในเว็บไซต์อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากความร่วมมือเหล่านี้ในช่วงเช้าของเอเชียของวันนี้ (วันอังคารที่ 18 มิ.ย. 2024) Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลชั้นนำได้ร่วงลงมาต่ำสุดที่ 64,600 ดอลลาร์ ส่งผลให้เกิดการชำระบัญชีสถานะต่างๆ ที่มีการใช้เลเวอเรจกว่า 480 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะกับเหล่าเทรดเดอร์สาย Long
จากข้อมูลของ Coinglass ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เทรดเดอร์กว่า 190,144 ราย ได้ถูกชำระบัญชี (ถูกล้างพอร์ต) ซึ่งเป็นมูลค่ากว่า 480.93 ล้านดอลลาร์ โดยกว่า 420 ล้านดอลลาร์นั้นเป็นเหล่าเทรดเดอร์ที่ถือสถานะ Long (การเปิดสถานะ Buy โดยเก็งว่าราคาของสินทรัพย์ดังกล่าวจะพุ่งสูงขึ้น)
สถานะ Long มูลค่ากว่า 372 ล้านดอลลาร์ได้ถูกชำระบัญชีบน Binance, OKX และ HTX และในระหว่างที่เขียนบทความนี้อยู่ ราคาของ Bitcoin ก็ฟื้นตัวเล็กน้อย และซื้อขายอยู่ที่สูงกว่า 65,700 ดอลลาร์ ราคาที่ลดลงมาของสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำรายนี้ยังส่งผลให้ราคาของ Altcoins ตัวอื่นๆ ร่วงลงด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น Ethereum ที่มีมูลค่าลดลงเกือบ 4% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบัน ETH ซื้อขายอยู่ที่ 3,450 ดอลลาร์
Altcoins ตายเกลื่อนเมื่อตลาดเปลี่ยนเป็นสีแดง
ราคาของเหรียญ Altcoins ยอดนิยมอย่างเช่น Solana (SOL), Toncoin (TON), และ Cardano (ADA) ร่วงลง 8%, 6%, และ 8% ตามลำดับ
เหรียญมีมที่ดีที่สุดเองก็มีราคาร่วงลงอย่างต่อเนื่องเช่นกันในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Dogecoin (DOGE) นั้นกำลังซื้อขายอยู่ที่ 0.1221 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลดลงเกือบ 10% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เหรียญมีมอื่นๆ เช่น Shiba Inu, PEPE, Dogwifhat และ Floki ก็ลดลงมากกว่า 10% เช่นกัน
Fed วางแผนที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปี 2024
จากที่รายงานไปเมื่อสัปดาห์ก่อน Federal Reserve (ธนาคารกลางสหรัฐฯ) ยังคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของพวกเขาไว้เช่นเดิม ที่ 5.25% ถึง 5.5% ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 23 ปี โดยอ้างถึงความต้องการในการหาหลักฐานเพิ่มเติมว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ กำลังปรับตัวลง
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 เป็นต้นมา อัตราดังกล่าวก็ยังคงทรงตัว โดยที่อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% ของ Fed อยู่ ถึงแม้ว่าจะมีผ่อนคลายลงแล้วบ้างในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม
รัฐบาลสหรัฐฯ รายงานว่า CPI (ดัชนีราคาผู้บริโภค) เพิ่มขึ้น 3.3% ต่อปีในช่วงเดือนพฤษภาคม ลดลงเล็กน้อยจาก 3.4% ในเดือนเมษายน Fed สังเกตเห็นถึงความคืบหน้า “เล็กน้อย” ในการลดลงของอัตราเงินเฟ้อ แต่ก็ยอมรับว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของราคานั้นยังคงอยู่ในระดับที่สูงอยู่ดี
ด้วยเหตุนี้ Fed จึงวางแผนที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียงแค่ครั้งเดียวในปี 2024 ลดลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีการปรับลดลง 3 ครั้ง Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่า แม้ว่า CPI (ดัชนีราคาผู้บริโภค) ล่าสุดจะให้การสนับสนุนก็ตาม แต่พวกเขาก็ต้องการหลักฐานมากกว่านี้ก่อนที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงิน






