ชุมชน Dogecoin มีหวัง! นักวิเคราะห์เผย 3 ปัจจัยที่อาจหนุนราคาในช่วงนี้

ในช่วงที่ตลาดคริปโตกลับมาคึกคักอีกครั้ง หนึ่งในเหรียญที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องคือ Dogecoin ซึ่งล่าสุดนักวิเคราะห์จาก The Motley Fool ได้ออกมาเปิดเผย 3 ปัจจัยสำคัญที่อาจมีบทบาทในการหนุนราคาของเหรียญมีมยอดนิยมนี้ให้พุ่งขึ้นอีกครั้ง

1. เงินถูกลงดันนักลงทุนลุยสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาเริ่มส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย ซึ่งหมายถึงต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลง โดยทั่วไปแล้วสถานการณ์แบบนี้มักเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น คริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งอาจรวมถึง Dogecoin

นักลงทุนในสหรัฐอเมริกาคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยจะถูกลดลงประมาณ 0.5% ภายในสิ้นปี 2025 โดยการลดดอกเบี้ยครั้งแรกมีโอกาสเริ่มในเดือนกรกฎาคม

ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปได้ลดดอกเบี้ยไปแล้ว 8 ครั้งตั้งแต่กลางปี 2024 เหลือ 2% และยังมีแนวโน้มลดต่อ

เมื่อดอกเบี้ยต่ำลง นักลงทุนมักถือเงินสดมากขึ้น แต่ทางเลือกในการสร้างผลตอบแทนกลับลดลง ส่งผลให้เงินทุนเริ่มไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น จากหุ้นขนาดใหญ่ไปยังหุ้นเติบโตและต่อเนื่องถึงคริปโต เช่น Bitcoin ก่อนจะถึงเหรียญที่ขับเคลื่อนด้วยกระแสอย่าง Dogecoin

หากแนวโน้มการผ่อนคลายทางการเงินเป็นไปตามที่คาด Dogecoin ก็อาจได้อานิสงส์จากคลื่นสภาพคล่องเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปี 2021 และ 2024 โดย Bitcoin เองก็น่าจะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน

2. สภาพคล่องทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว

นอกเหนือไปจากการลดดอกเบี้ยแล้ว การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยง

ดัชนี M2 ซึ่งตัวชี้วัดปริมาณเงินสด เงินฝาก และบัญชีตลาดเงินทั่วโลกได้พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 109 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.3% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา

เฉพาะในสหรัฐอเมริกา M2 ทะยานขึ้นแตะ 22 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนเมษายนถือเป็นจุดสิ้นสุดของนโยบายควบคุมเงินเฟ้อแบบเข้มงวดของ Fed ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ในฝั่งจีน ธนาคารกลางก็เริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นกันโดยการลดอัตราการกันเงินทุนสำรองของธนาคารลง 0.5% ในเดือนพฤษภาคม ทำให้มีเงินประมาณ 1 ล้านล้านหยวน (ราว 138,000 ล้านดอลลาร์) เข้าสู่ระบบ ซึ่งเงินบางส่วนอาจไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นต่างประเทศและคริปโตแม้จะมีข้อจำกัดทางกฎหมายอยู่บ้าง

ท้ายที่สุด สภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นจะกระจายไปยังภาคครัวเรือน และเงินสดส่วนเกินมักถูกนำไปลงทุนในสินทรัพย์เก็งกำไร โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่ไม่มีรายได้รองรับแต่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูง เช่น Dogecoin ซึ่งได้รับความนิยมและมักถูกจับตามองในช่วงตลาดกระทิง

หากสภาพคล่องทั่วโลกฟื้นตัวต่อเนื่องไปถึงปี 2026 Dogecoin ก็อาจได้รับแรงหนุนอีกระลอก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังสามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีพื้นฐานมั่นคงกว่าอย่าง Bitcoin ซึ่งได้ประโยชน์จากสภาพคล่องเช่นกัน

3. Bitcoin กำลังปูทางให้

Dogecoin จะไม่ปรับตัวขึ้นเพียงเพราะมีสภาพคล่องเท่านั้น แต่ Dogecoin ต้องการ “ตัวจุดชนวน” และในวัฏจักรตลาดก่อนหน้า Bitcoin มักเป็นตัวเปิดเกม

ปัจจุบัน Bitcoin เคลื่อนไหวห่างจากจุดสูงสุดตลอดกาลไม่ถึง 5% ขณะที่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา Dogecoin มีความสัมพันธ์กับราคา Bitcoin ในระดับเฉลี่ย 0.58 ซึ่งสะท้อนว่าทิศทางราคาของ Dogecoin มักเดินตามการเคลื่อนไหวของ Bitcoin อย่างมีนัยสำคัญ

ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า Bitcoin มักสร้างจุดสูงสุดจากแรงหนุนทางเศรษฐกิจมหภาคหรือปัจจัยพื้นฐานก่อนจะเข้าสู่ช่วงพักตัว จากนั้นนักเก็งกำไรระยะสั้นจึงเริ่มโยกกำไรไปสู่สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงกว่าอย่าง Dogecoin

แม้การสลับจากสินทรัพย์คุณภาพไปสู่เหรียญมีมอาจฟังดูไร้เหตุผล แต่ก็เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจริง และมักผลักดันราคา Dogecoin ให้พุ่งขึ้นในระยะสั้นพร้อมเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายใหม่เข้าสะสม Bitcoin ในระดับราคาที่น่าสนใจมากขึ้น

สำหรับนักลงทุนที่มองระยะยาว เป้าหมายไม่ใช่การทุ่มเงินใส่สินทรัพย์เสี่ยงที่มีความผันผวนสูง แต่คือการเข้าใจว่าบริบทเศรษฐกิจมหภาคสามารถประคองราคาของสินทรัพย์แทบทุกประเภท

ขอบคุณข้อมูลจาก The Motley Fool

แนะนำ Snorter Token เหรียญมีมมาใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูง

Snorter Token คือ Utility Token ของ Snorter บอทเทรดคริปโตที่ทำงานบน Telegram ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายย่อย

โดยบอททำงานบนเครือข่าย Solana ด้วยความเร็วสูงและค่าธรรมเนียมต่ำ มาพร้อมฟีเจอร์ Sniping ใช้งานง่าย และระบบป้องกัน MEV อันล้ำสมัย

แม้จะเริ่มบน Solana แต่ Snorter ยังวางแผนรองรับ Multi-chain ในอนาคต

Snorter Token ถูกวางจำหน่ายรอบพรีเซลก่อนขึ้นกระดานเทรดอย่างเป็นทางการ โดยโครงการสามารถระดมทุนได้กว่า 1.3 ล้านดอลลา ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 0.0969 ดอลลาร์ และจะถูกปรับขึ้นทุก 2-3 วัน

ผู้ที่สนใจสามารถเรียนรู้รายละเอียดโครงการ Snorter Token เพิ่มเติมและวิธีการซื้อโทเค็นอย่างละเอียดได้ที่นี่

ไปยัง Snorter Token