เทรดฟิวเจอร์ คริปโตอย่างไรและแนะนำ 3 กลยุทธ์การเทรด
เทรดฟิวเจอร์ คริปโต คือการซื้อและขายเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีแบบล่วงหน้า เป็นเครื่องมือการเทรดที่ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะนักลงทุนสามารถทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาเหรียญได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเหรียญในพอร์ตของตนเอง
บทความนี้จะนำพาคุณผู้อ่านทุกท่านได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเทรด Future ในเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี วิธีการเทรด ข้อดีและข้อเสีย และแนะนำ 3 เทคนิคการเทรดฟิวเจอร์ที่ดีที่สุด
เทรดฟิวเจอร์ คริปโต อย่างไร
เทรดฟิวเจอร์ คริปโต (Crypto Futures) คือเครื่องมือการเทรดที่ผู้ซื้อและผู้ขายทำสัญญาตกลงกันว่าจะทำการซื้อและขายเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีแบบล่วงหน้า แต่จะมีการกำหนดราคาการซื้อขายไว้ในสัญญาและจะมีการส่งมอบสินทรัพย์และชำระเงินในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถทำการซื้อและขายเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีได้ในทันทีโดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเวลาตามที่กำหนดไว้ในสัญญาฟิวเจอร์ เพราะเป้าหมายที่สำคัญของการทำสัญญาคือ การตกลงกันว่าจะทำการซื้อและขายสินทรัพย์กันในอนาคต
เครื่องมือการ เทรดฟิวเจอร์ คริปโต สามารถใช้เครื่องมือนี้กับเหรียญได้ทุกเหรียญที่ถูกลิสต์บนกระดาน เช่น เหรียญมีม เหรียญคริปโตมาใหม่ และเหรียญคริปโตมาแรง
ทั้งนี้ เครื่องมือนี้จะมีให้บริการบนกระดานเทรดบางกระดานและผู้ให้บริการแต่ละรายจะมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน
ที่มาของการเทรด Future
เพื่อช่วยให้นักลงทุนมือใหม่เข้าใจถึงหลักการณ์ของการเทรดแบบ Future เราขอเล่าประวัติหรือที่มาของการเทรดรูปแบบนี้
การเทรดแบบ Future เกิดขึ้นครั้งแรกในยุคเมโสโปเตเมียประมาณ 1750 ปีก่อนคริสตกาล กษัตริย์ฮัมมูราบีผู้เป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 ของกรุงบาบิโลนได้ออกประมวลกฎหมายอนุญาตให้สามารถทำการขายสินค้าและทรัพย์สินในราคาที่ตกลงกันไว้ ณ ปัจจุบันได้ในอนาคต โดยสัญญาจะต้องถูกทำเป็นลายลักษณ์อักษรและมีสักขีพยาน
จากการออกประมวลกฎหมายนี้สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ 2 ผลลัพธ์คือ
- ผู้ซื้อหรือผู้ขายได้รับกำไรจากส่วนต่างของราคา
เช่น นาย A ตกลงว่าจะซื้อข้าวสาลีจากนาย B ในราคา 80 บาทต่อกิโลกรัมโดยจะมีการชำระเงินและส่งมอบสินค้าในอีก 30 วันข้างหน้า
ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลานั้น ราคาข้าวสาลีคือ 100 บาท ทำให้นาย A ได้รับผลประโยชน์จากสิ่งนี้ เพราะราคา ณ ปัจจุบันสูงกว่าราคาที่ได้ตกลงกันไว้ในสัญญา
- ผู้ซื้อหรือผู้ขายขาดทุนจากส่วนต่างของราคา
เช่น นาย A ตกลงว่าจะซื้อข้าวโพดจากนาย B ในราคา 80 บาทต่อกิโลกรัมโดยจะมีการชำระเงินและส่งมอบสินค้าในอีก 30 วันข้างหน้า
ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลานั้น ราคาข้าวโพดคือ 60 บาท ทำให้นาย A เสียผลประโยชน์จากสิ่งนี้ เพราะราคา ณ ปัจจุบันต่ำกว่าราคาที่ได้ตกลงกันไว้ในสัญญา
การเทรดในประวัติศาสตร์ดังกล่าวได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับการเทรดสินทรัพย์ในปัจจุบัน นักลงทุนสามารถทำสัญญาว่าจะซื้อและขายสินทรัพย์ในอนาคตด้วยการตกลงราคากันก่อนล่วงหน้า ซึ่งแน่นอนว่ามีผู้ที่ได้รับผลประโยชน์และเสียผลประโยชน์จากการเทรดรูปแบบนี้
ข้อดีและข้อเสียของการ เทรดฟิวเจอร์ คริปโต
การเล่น Future เป็นเทคนิคการเทรดแบบขั้นสูงที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่นักลงทุนทุกคนควรทราบและนำไปพิจารณา ดังนี้
ข้อดี:
- นักลงทุนสามารถทำเงินจากการเก็งกำไรของราคาเหรียญ
- สามารถนำไปใช้กับเครื่องมืออื่นที่จะช่วยเพิ่มกำไรมากขึ้นได้
- สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายที่อาจจะมีในอนาคต เช่น อัตราแลกเปลี่ยนประจำวัน
ข้อด้อย:
- ไม่สามารถนำไปใช้กับเหรียญบางประเภท เช่น เหรียญพรีเซล
- ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก เพราะผู้ให้บริการมักจะกำหนดเงื่อนไขว่าสัญญาฟิวเจอร์จะต้องมีค่า Leverage ตั้งแต่ 1:10 เป็นต้นไป
- เป็นการเทรดที่มีความเสี่ยงสูงมากและเงินลงทุนอาจสูญทั้งหมดหากทิศทางของราคาได้สวนทางกับที่นักลงทุนได้คาดการณ์เอาไว้
วิธีการเทรดฟิวเจอร์ คริปโต
การเทรดฟิวเจอร์ คริปโต สามารถทำได้ 2 คำสั่ง ได้แก่
-
Long Position
นักลงทุนผู้มีสถานะเป็น ‘ผู้ซื้อ’ ในสัญญา
-
Short Position
นักลงทุนผู้มีสถานะเป็น ‘ผู้ขาย’ ในสัญญา
ยกตัวอย่างเช่น:
ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2024
- นาย A เปิดคำสั่งซื้อเหรียญ Bitcoin ล่วงหน้า ทำให้นาย A มีสถานะเป็น Long Position
- นาย B เปิดคำสั่งขายเหรียญ Bitcoin ล่วงหน้า ทำให้นาย B มีสถานะเป็น Short Position
โดยในสัญญาของฟิวเจอร์ได้มีการระบุ ‘เหรียญ’ ‘จำนวนเหรียญ’ ‘ราคาที่ตกลงจะซื้อและขาย’ และ ‘วันที่สัญญาครบกำหนด’
เมื่อถึงวันที่สัญญาครบกำหนด เช่น วันที่ 30 พฤษภาคม 2024 นาย A และนาย B ได้ปฏิบัติตามสัญญาที่ตกลงกันไว้คือทำการซื้อและขายเหรียญและคำสั่งซื้อคือเสร็จสมบูรณ์
ใครได้ผลประโยชน์จากสิ่งนี้?
ผู้ที่ได้รับกำไรจากส่วนต่างของราคาคือผู้ได้รับประโยชน์จากสัญญาการซื้อขายล่วงหน้านี้
แนะนำ 3 กลยุทธ์เทรดฟิวเจอร์ คริปโต ที่ดีที่สุด
การเทรดแบบฟิวเจอร์ในคริปโทเคอร์เรนซีมีหลักการณ์และวิธีการปฏิบัติที่เรียบง่าย ทั้งนี้ หากนักลงทุนต้องการทำเงินจากเครื่องมือนี้ นักลงทุนควรเปิดคำสั่งซื้อและขายอย่างมีกลยุทธ์ ดังนี้
-
เลือกเหรียญหลัก
นักลงทุนควรเลือกที่จะซื้อเหรียญคริปโตที่เป็นเหรียญหลักหรือถือเหรียญคริปโตที่เป็นเหรียญหลักไว้ในพอร์ต เพราะเหรียญหลักจะเป็นเหรียญที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปและมีปริมาณการซื้อและขายจำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งเราขอแนะนำ Bitcoin, Ethereum และ Ribble ว่าเป็นเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดแบบฟิวเจอร์
-
ตรวจสอบสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน
นักลงทุนควรตรวจสอบว่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีอยู่ในสถานการณ์ใดระหว่างตลาดหมีหรือตลาดกระทิง เหรียญที่นักลงทุนต้องการซื้อหรือขายว่าเป็นเหรียญที่มีความต้องการสูงหรือมีปริมาณการซื้อและขายจำนวนมากในแต่ละวันหรือไม่ และราคาเหรียญ ณ ช่วงเวลานั้นถูกหรือแพงเกินไปหรือเปล่า
-
วางแผนการเทรดอย่างชัดเจน
นักลงทุนควรมีการเตรียมการและการวางแผนสำหรับการเทรดอย่างชัดเจน เช่น จุดเข้าซื้อและจุดต้องขายเพื่อการ Stop Loss เพราะตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมีความผันผวนสูงมากและการขึ้นและลงของราคาเหรียญส่วนใหญ่มักจะไม่สามารถคาดการณ์และหาเหตุผลมารองรับไม่ได้
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ‘ความรู้’ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลทั้งหมดอย่างรอบด้านและมีความเข้าใจว่าการลงทุนมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง!
บทสรุป
การเทรดฟิวเจอร์ คริปโต คือการเปิดคำสั่งซื้อและขายแบบล่วงหน้า โดยผู้เปิดคำสั่งซื้อคือผู้ที่มีสถานะเป็น Long Position และผู้เปิดคำสั่งขายคือผู้ที่มีสถานะเป็น Short Position ซึ่งในสัญญาการซื้อและขายแบบฟิวเจอร์จำมีการระบุรายละเอียดที่สำคัญ 4 อย่าง ได้แก่ ‘เหรียญ’ ‘จำนวนเหรียญ’ ‘ราคาที่ตกลงจะซื้อและขาย’ และ ‘วันที่สัญญาครบกำหนด’ โดยนักลงทุนที่ได้รับกำไรจากส่วนต่างของราคาคือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากการเทรดรูปแบบนี้ อย่างไรก็ตามการหากระดานเทรดที่น่าเชื่อถือ ก็เป็นเรื่องสำหรับอย่างมากสำหรับผู้ที่สนใจในการเทรดฟิวเจอร์ คริปโต
โดยจากการสำรวจ ทางเราพบว่ากระดานเทรดของ MEXC ถือเป็นกระดานเทรดที่เหมาะสมอย่างมาก สำหรับนัก เทรดคริปโต ฟิวเจอร์ ทั้งมือใหม่และที่มีประสบการณ์ เนื่องจากภายในกระดานเทรดมีรูปแบบการใช้งานที่ง่าย และฟีเจอร์ช่วยเหลือมากมาย อีกทั้งยังมีสินทรัพย์คริปดตอีกจำนวนมากให้ได้เลือกเทรด ด้วยอัตราค่าธรรมที่เนียมที่ถูก ด้วยเหตุนี้เอง MEXC จึงเป็นกระดานเทรดที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่สนใจเทรดคริปโต ฟิวเจอร์ ที่เราแนะนำมากที่สุดในตอนนี้






