ประเทศที่ใช้ Bitcoin ในปี 2024 (และประเทศที่แบน Bitcoin)

Last updated:
Author
Author
Somchai Wang
About Author

สมชายเป็นนักเขียนคอนเทนต์ที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี ในด้านคริปโต...

Last updated:
ทำไมจึงไว้วางใจ Cryptonews
เป็นเวลามากว่า 10 ปีที่ Cryptonews ได้รายงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเรา ทีมงานนักข่าวและนักวิเคราะห์ของเรามีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในด้านการวิเคราะห์ตลาดและเทคโนโลยีบล็อกเชน เรามุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานด้านบรรณาธิการให้อยู่ในระดับสูง โดยเน้นความถูกต้องของข้อเท็จจริงและการรายงานอย่างสมดุลในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นคริปโตเคอเรนซี โปรเจกต์บล็อกเชน งานอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ หรือการพัฒนาเทคโนโลยี การที่เราอยู่ในอุตสาหกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ https://cryptonews.com/about-us/">อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cryptonews
การเปิดเผยโฆษณาเรามุ่งมั่นในการสร้างความโปร่งใสอย่างเต็มที่กับผู้อ่านของเรา บางเนื้อหาในเว็บไซต์อาจมีลิงก์พันธมิตร ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากความร่วมมือเหล่านี้

ประเทศที่ใช้ Bitcoin ใ (และประเทศที่แบน Bitcoin)

หากคุณกำลังที่จะซื้อ ขาย หรือใช้ Bitcoin คุณก็ควรตรวจสอบว่าเหรียญดังกล่าวถูกกฎหมายในประเทศของคุณหรือไม่

ในความเป็นจริง มีหลายประเทศที่มีกฎหมายคริปโตแตกต่างกันไป โดยบางประเทศถึงกับแยก Bitcoin ออกมาเพื่อให้สามารถใช้เป็นเงิน จ่ายภาษี ซื้อสินค้า หรือแลกเปลี่ยนเหมือนกับสินค้าโภคภัณฑ์กันเลยทีเดียว

และในประเทศอื่นๆ ที่แม้แต่การถือ Bitcoin ก็สามารถทำให้คุณติดคุกได้ ส่วนบางประเทศก็ไม่สนใจที่จะควบคุมเหรียญด้วยซ้ำ แถมปล่อยให้ Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆ ไม่มีกฎหมายการควบคุมที่ชัดเจน

ประเทศที่ใช้ Bitcoin ได้ถูกต้องตามกฎหมายสามารถดูได้ในแผนที่นี้:

ประเทศที่ใช้ Bitcoin ในปี

แผนที่ทางกฎหมายของ Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆ ที่มา: Coin.dance

แม้ว่าจะมีโอกาสที่ประเทศที่รองรับ Bitcoin จะมีเยอะขึ้น แต่ในประวัติศาสตร์การเงินที่ยาวนานนั้น Bitcoin ก็ยังถือว่าใหม่อยู่ โดยอาจต้องใช้เวลาหนึ่งทศวรรษหรือหลายทศวรรษเพื่อให้ Bitcoin เข้ามาแทนที่ปริมาณเงินของโลกได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยการยอมรับที่เพิ่มมากขึ้นและการได้เป็นวิธีการชำระเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไอเดียที่ว่า Bitcoin คือสกุลเงินของโลกนั้นก็ใกล้จะกลายเป็นความจริงในไม่ช้า

บทความนี้จะอธิบายถึงว่าประเทศใดบ้างที่ Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆ

  • ถูกแบน
  • ถูกจำกัด
  • ถูกกฎหมาย
  • ไม่ถูกและไม่ผิดกฎหมาย

คำชี้แจง: แม้ว่ารายการดังกล่าวจะมีเนื้อหากว้างขวาง แต่กฎหมายคริปโตก็มักจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด

ประเทศที่แบน Bitcoin


โดยทั่วไปแล้ว Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆ ล้วนได้รับการยอมรับเกือบทั่วโลก อย่างไรก็ตาม บางประเทศก็ได้สั่งห้ามหรือไม่ให้ใช้งาน ไม่ว่าการแบนจะเกิดขึ้นเนื่องจากลักษณะการกระจายอำนาจของ Bitcoin ที่เป็นภัยคุกคามต่อระบบการเงินในปัจจุบัน หรือเป็นเพราะกฎหมายที่เหมาะสมยังไม่ผ่านการอนุมัติ ซึ่งก็มีอย่างน้อยๆ เก้าประเทศด้วยกันที่ตัดสินใจแบน Bitcoin ได้แก่:

  • แอลจีเรีย โดยให้เหตุผลว่าเหรียญบิทคอยน์ไม่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์จริงใดๆ ทางแอลจีเรียจึงได้สั่งแบนเหรียญคริปโต
  • โบลิเวีย ธนาคารกลางได้ห้ามการใช้เหรียญคริปโตเนื่องจากมีลักษณะที่ไม่ได้รับการควบคุม
  • บังคลาเทศ อ้างอิงถึงความเป็นไปได้ในการฟอกเงินและการไม่ได้รับอนุญาตจากธนาคารบังคลาเทศ Bitcoin และสเหรียญคริปโตๆ ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
  • สาธารณรัฐโดมินิกัน เหรียญคริปโตนั้นผิดกฎหมายในสาธารณรัฐโดมินิกัน โดยให้เหตุผลว่าไม่ใช่เงินที่ชำระได้ตามกฎหมาย
  • กานา แม้ว่าเหรียญคริปโตถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศกานา แต่ธนาคารกานามองเห็นศักยภาพของ Blockchain และกำลังประเมินว่าจะปรับให้เข้ากับโครงสร้างทางการเงินได้อย่างไร
  • เนปาล ธนาคารกลางของเนปาลสั่งห้าม Bitcoin เนื่องจากไม่ใช่สกุลเงินที่ถูกกฎหมาย
  • สาธารณรัฐมาซิโดเนีย ประชาชนถูกเตือนว่าพวกเขาไม่สามารถมีเหรียญคริปโตในต่างประเทศได้ และเหรียญยังถือว่าผิดกฎหมายอยู่
  • กาตาร์ เนื่องจากความผันผวนของราคา ความเป็นไปได้ของอาชญากรรมทางการเงิน และการขาดการสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง การซื้อขายเหรียญคริปโตใดๆ จึงถูกแบน
  • วานูอาตู สำนักข่าวหลายแห่งเปิดเผยว่าวานูอาตูยอมรับ Bitcoin เพื่อแลกกับการเป็นพลเมือง อย่างไรก็ตาม สำนักงานสัญชาติของประเทศปฏิเสธเรื่องนี้ และให้เหตุผลว่ายอมรับเฉพาะสกุล USD เพื่อแลกกับการเป็นพลเมืองเท่านั้น

ประเทศจำกัดการใช้งาน Bitcoin


นอกเหนือจากประเทศที่แบน Bitcoin แล้ว ก็ยังมีประเทศที่ Bitcoin ถูกจำกัดอยู่บ้างและไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือใช้เพื่อการชำระเงินได้ โดยในประเทศเหล่านี้ ธนาคารและหน่วยงานบริการทางการเงินอื่นๆ จะถูกห้ามไม่ให้ติดต่อกับกระดานเทรดคริปโตและบริษัทใดๆ และในกรณีที่รุนแรงกว่านั้น ประเทศเหล่านี้ยังมีการสั่งแบนกระดานเทรดคริปโต (เช่น ประเทศจีน) อีกด้วย

  • บาห์เรน คุณต้องมีใบอนุญาตเพื่อใช้บริการสินทรัพย์คริปโตในประเทศบาห์เรน
  • จีน เงินหยวนดิจิทัลของจีนได้ออกเป็นค่าจ้างแบบ On-chain เป็นครั้งแรกในประเทศ แม้ว่าจะมีการศึกษาเรื่องเหรียญคริปโตมาหลายปี แต่จีนก็กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดด้วยความระมัดระวัง โดยแสดงกฎข้อจำกัดของเหรียญ ICO โดยประเทศจีนมีทรัพยากรเหมืองขุดบิทคอยน์กว่า 70% แต่ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ด้วยเหตุผลด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม
  • ฮ่องกง อาจมีการออกกฎหมายที่อาจจำกัดการซื้อขายเหรียญคริปโตกับบุคคลที่มีพอร์ตการลงทุนมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากนี้ ฮ่องกงยังเน้นย้ำถึงกฎระเบียบบางข้อของ ICO ส่วนกระดานแลกเปลี่ยนยังจำเป็นต้องมีกฎระเบียบเพิ่มเติมในการประกาศใช้
  • อิหร่าน สถาบันการเงินไม่ได้รับอนุญาตให้ถือครองเหรียญคริปโต
  • คาซัคสถาน ธนาคารแห่งชาติมีข้อจำกัดด้านเหรียญคริปโตที่เข้มงวด โดยสั่งแบนกระดานแลกเปลี่ยนและการขุด และยังมีการไตร่ตรองการห้ามใช้เหรียญคริปโตโดยสมบูรณ์แล้วเรียบร้อย
  • รัสเซีย แม้เหรียญคริปโตจะถูกกฎหมายในรัสเซีย แต่ก็ถูกจำกัดเอาไว้แทน โดยธนาคารและเหรียญคริปโตจะต้องได้รับการลงทะเบียนโดยธนาคารกลาง และเหรียญยังไม่สามารถใช้เป็นวิธีการชำระเงินได้
  • ซาอุดิอาราเบีย เมื่อก่อน Bitcoin เคยถูกแบนในประเทศ แต่ตอนนี้ถือว่าถูกกฎหมายในประเทศแล้ว อย่างไรก็ตาม ธนาคารถูกแบนไม่ให้ใช้เหรียญ
  • ตุรกี ไม่อนุญาตให้ใช้เหรียญคริปโตเป็นสินทรัพย์ทางการเงินในธนาคาร นอกจากนี้ยังไม่สามารถใช้เป็นช่องทางการชำระเงินอีกด้วย
  • เวียดนาม แม้ว่า Bitcoin ยังคงถูกห้ามไม่ให้เทรดกับธนาคารกลางเวียดนาม แต่การถือและการเทรดด้วยเหรียญคริปโตเป็นสิ่งที่ยอมรับได้สำหรับผู้ใช้โดยเฉลี่ย โดยกำลังดำเนินการวิจัยในประเทศเพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติมเรื่องเหรียญคริปโตและการใช้งาน

โปรดทราบว่าแม้จะมีการห้ามและข้อจำกัด กฎหมายเหล่านี้จะไม่ได้แบน Bitcoin หรือการซื้อขายเหรียญคริปโตอื่น ๆ และการใช้งาน เนื่องจากลักษณะของเหรียญคริปโตที่มีการกระจายอำนาจ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแบนสกุลเงินเหล่านั้น และคนจำนวนมากในประเทศเหล่านั้นยังคงใช้เว็บไซต์ เช่น Local Bitcoins, Paxful, หรือ Bisq ในการเทรดเหรียญกับผู้อื่น ตามที่ระบุโดยปริมาณการซื้อขายบนแพลตฟอร์มเหล่านี้

ที่มา coins.dance

ที่มา coin.dance

เรื่องนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่มีรัฐบาลใดมีอำนาจในการแบน Bitcoin อย่างแท้จริง เว้นแต่จะมีห้ามไม่ให้คนทั้งประเทศใช้อินเทอร์เน็ต

ประเทศที่ใช้บิทคอยน์ได้ถูกกฎหมาย


มาถึงเรื่องดีๆ กันบ้าง การศึกษาแสดงให้เห็นว่ามีอย่างน้อย 111 ประเทศที่ใช้บิทคอยน์ได้ถูกต้องตามกฎหมาย

ตัวอย่างเช่น ประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาและแคนาดา โดยทั่วไปจะมองว่าการใช้เหรียญคริปโตเป็นเรื่องที่ดี และขณะเดียวกันก็พยายามบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการฟอกเงินและป้องกันการฉ้อโกง ส่วนในสหภาพยุโรป ประเทศสมาชิกจะไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดตัวเหรียญคริปโตของตนเอง แต่กระดานเทรดคริปโตจะได้รับการสนับสนุนอย่างถูกต้องตามกฎหมายและต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ

ในเดือนมกราคม 2022 ประเทศที่ใช้ Bitcoin ได้ถูกต้องตามกฎหมาย ได้แก่:

แอนติกาและบาร์บูดา มีการส่งใบเรียกเก็บเงินเพื่อปกป้องกระดานเทรดและนักลงทุนคริปโต โดย Bitcoin อาจกลายเป็นเงินที่ถูกกฎหมายในประเทศในอีกไม่นาน เนื่องจากคุณสามารถใช้ Bitcoin เพื่อชำระค่าสัญชาติได้
ออสเตรเลีย Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆ ถูกกฎหมายในประเทศมาตั้งแต่ปี 2017 และจะต้องมีการเสียภาษีจากส่วนต่างผลกำไร
บาร์เบโดส เหรียญคริปโตสามารถใช้ได้อย่างถูกกฎหมายในบาร์เบโดส และบาร์เบโดสยังมีเหรียญคริปโตของตัวเอง นั่นคือ DCash ซึ่งอยู่ในตลาดมาตั้งแต่ปี 2022
เบลเยียม เหรียญคริปโตสามารถใช้เสียภาษีได้ แม้ว่าเหรียญคริปโตจะไม่ถือเป็นการชำระเงินตามกฎหมาย แต่ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นทางเลือกที่สามารถใช้แทนเงินได้
บัลแกเรีย การทำธุรกรรมด้วยเหรียญคริปโตจะไม่จำเป็นต้องใช้ใบอนุญาตและจะถือเป็นรายได้จากการขายสินทรัพย์ทางการเงิน
หมู่เกาะเคย์เเมน มีการผ่านกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมเหรียญคริปโต โดยมีกฎหมายภาษีที่เหมาะสำหรับธุรกิจ รวมถึงธุรกิจเหรียญคริปโต
ชิลี เหรียญคริปโตอยู่ภายใต้นโยบายการเงินของประเทศ โดยมีการป้องกันกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตในชิลี
โครเอเชีย มีเกณฑ์ปลอดภาษีอยู่ที่ 3,800 HRK และภาษีกำไรส่วนต่างอยู่ที่ 12%-18% ซึ่งทางรัฐบาลก็มีการเตือนถึงลักษณะที่มีความเสี่ยงสูงของเหรียญคริปโต
โดมินิกา กำลังเริ่มทดสอบเหรียญคริปโตอย่าง DCash และมีแนวโน้มว่าประเทศจะยอมรับการใช้งาน ซึ่งมีเคยมีโครงการแจก Bitcoin ให้กับประชาชน แต่ถูกยกเลิกไปแล้ว
เอสโตเนีย เหรียญคริปโตถือเป็นสกุลเงินเสมือนและมีมูลค่าดิจิทัลเป็นวิธีการชำระเงิน แม้ว่าจะไม่ถือเป็นการชำระเงินตามกฎหมายก็ตาม
ฟินแลนด์ เหรียญคริปโตถูกกฎหมายและถือเป็นสกุลเงินเสมือน โดยหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจควบคุมเหรียญคริปโต
เยอรมนี สินทรัพย์คริปโตได้รับอนุญาตให้ซื้อ ขาย และถือครองได้ตราบเท่าที่มาจากสถาบันที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
อินโดนีเซีย เหรียญคริปโตถูกกฎหมายในอินโดนีเซียมาตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งถือเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในการซื้อขายและไม่ได้เป็นวิธีการชำระเงิน
อิตาลี เหรียญคริปโตถือเป็นสกุลเงินเสมือน โดยจะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ไอร์แลนด์ เหรียญคริปโตถือเป็นสกุลเงินเสมือน และจะมีการเก็บภาษีแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ต่างๆ
ญี่ปุ่น สินทรัพย์คริปโตอยู่ในหมวดหมู่ ‘รายได้เบ็ดเตล็ด’
ลิทัวเนีย ลิทัวเนียกลายเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่มีกรอบการทำงานเกี่ยวกับเหรียญคริปโตและการเก็บภาษี โดยหากทำกำไรจากเหรียญคริปโตได้ไม่เกิน 2,500 จะถือว่าไม่ต้องเสียภาษี
มอลตา มอลตาเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นที่แห่งของกระดานเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดอย่าง Binance และ OKEx ด้วยจุดยืนที่เปิดกว้างเมื่อพูดถึงเรื่องเหรียญคริปโตเคอเรนซี่
มอริเชียส กฎการควบคุมคริปโตของประเทศอยู่ภายใต้หมวดหมู่ของสินทรัพย์ดิจิทัล
หมู่เกาะมาร์แชลล์ SOV หรืออธิปไตยเป็นสกุลเงินตามกฎหมายของหมู่เกาะมาร์แชลและขับเคลื่อนโดย Blockchain
นิวซีแลนด์ เหรียญคริปโตจะถูกเปรียบเทียบกับทองคำและต้องเสียภาษี
นอร์เวย์ เหรียญคริปโตถือเป็นสินทรัพย์และต้องเสียภาษี
ฟิลิปปินส์ สกุลเงินดิจิทัลจัดอยู่ในหมวดหมู่สัญญาการรักษาความปลอดภัยและการลงทุน และอยู่ภายใต้กฎระเบียบของหน่วยงาน ก.ล.ต. โดยบริการทางการเงินใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหรียญคริปโต เช่น กระดานแลกเปลี่ยนล้วนอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งชาติฟิลิปปินส์
เซอร์เบีย เหรียญคริปโตถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับภาษี โดยบริการคริปโตทั้งหมดจะต้องมีใบอนุญาต
เกาหลีใต้ เหรียญคริปโตนั้นถูกกฎหมายและอยู่ภายใต้กฎหมายต่อต้านการฟอกเงินในขณะที่ได้รับการควบคุมอย่างใกล้ชิดจากรัฐบาล โดยสถาบันการเงินจะต้องรายงานธุรกรรมเหรียญคริปโต
สวีเดน การเทรด Bitcoin ถือเป็นบริการทางการเงิน โดยกำไรจะถูกหักภาษีเป็นรายได้ทางธุรกิจ
สวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงต้นปี 2017 เหรียญคริปโตได้รับการยอมรับเป็นการชำระเงินโดยสำนักงานทะเบียนพาณิชย์ โดยสถาบันจำเป็นต้องมีใบอนุญาตเพื่อใช้งานเหรียญคริปโต และมีกฎระเบียบที่กว้างขวางที่นำมาใช้โดยมีแนวโน้มเป็นเชิงบวกต่อเหรียญคริปโตโดยรวม
ยูเครน เหรียญคริปโตถูกจัดประเภทเป็นทรัพย์สินในประเทศ ซึ่งเป็นปลายทางที่กำลังเติบโตสำหรับธุรกิจคริปโตหลายแห่ง
สหราชอาณาจักร กระดานเทรดต้องสอดคล้องกับข้อกำหนด FCA และ Bitcoin คือเงินส่วนตัว
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถือเป็นประเทศใดที่ไม่มีการแบน Bitcoin และเหรียญคริปโต โดยมีกลยุทธ์ Emirates Blockchain Strategy ปี 2022 เพื่อย้ายธุรกรรมส่วนใหญ่ไปยัง Blockchain และกลายเป็นรัฐบาลที่ขับเคลื่อนโดย Blockchain
สหรัฐอเมริกา เหรียญคริปโตอยู่ภายใต้กฎหมายภาษีในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะมีการควบคุมหากการขายหลักทรัพย์เกี่ยวข้องกับเหรียญคริปโต
อุซเบกิสถาน ขณะนี้เหรียญคริปโตถูกกฎหมายในประเทศแล้ว โดยรายได้ที่ได้รับจากเหรียญคริปโตจะไม่ถูกหักภาษี และกระดานแลกเปลี่ยนจำเป็นต้องมีข้อกำหนดเฉพาะและใบอนุญาตจึงจะสามารถเปิดบริการได้
เวเนซุเอลา หลังจากสร้างสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากปิโตรเลียมในปี 2017 เวเนซุเอลาก็ดูเหมือนเป็นตัวเลือกที่สำคัญสำหรับการนำเหรียญคริปโตไปใช้อย่างกว้างขวาง ซึ่งเคยถูกประกาศว่าผิดกฎหมายในปี 2018 และความพยายามในการทำให้ถูกกฎหมายอีกครั้งเกิดขึ้นอีกครั้งในเดือนมกราคม 2020 ส่วนการทำเหมืองขุดซึ่งเคยผิดกฎหมายและนักขุดถูกตั้งข้อหา ก็ได้มีการยกเลิกข้อกล่าวหาไปแล้ว และกิจกรรมการเทรดเหรียญคริปโตถือว่าถูกกฎหมายในเวเนซุเอลาแล้วเรียบร้อย

ประเทศที่รองรับ Bitcoin ถูกต้องตามกฎหมาย


เอลซัลวาดอร์

เป็นประเทศเดียวที่ยอมรับ Bitcoin ว่าเป็นเงินที่ชำระได้ตามกฎหมาย โดยก่อนจะใช้กฎหมายคริปโตข้อนี้ ผู้ลงทุนคริปโตจะต้องแบกรับความเสี่ยงเอง โดยนักลงทุน Bitcoin ก็ควรยินดีกับเรื่องนี้ Bitcoin เป็นเงินที่ชำระได้ตามกฎหมายในประเทศใดก็ตามล้วนถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งสมควรมีการเผยแพร่ข่าวทั้งหมดออกไป ความเคลื่อนไหวของเอลซัลวาดอร์อาจเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นในประวัติศาสตร์ หากประเทศต่างๆ เริ่มนำ Bitcoin มาใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตนั่นเอง

ประเทศที่ Bitcoin ไม่ได้ถูกหรือผิดกฎหมาย


บางประเทศยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับ Bitcoin ในกรณีเช่นนี้ การใช้เหรียญดังกล่าวนั้นอาจถูกกฎหมายในแง่ที่คุณสามารถเป็นเจ้าของได้ แต่ก็ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนหรือการคุ้มครองทางกฎหมายเกี่ยวกับสถานะของเหรียญ โดยประเทศเหล่านี้กำลังสร้างกรอบทางกฎหมายสำหรับ Bitcoin และเหรียญคริปโตอยู่แล้ว หรือจะใช้แนวทางรอดูไปก่อนก็ได้เหมือนกัน

ประเทศที่ยังไม่ตัดสินใจที่ว่านี้ ได้แก่ :

แอลเบเนีย เตือนประชาชนให้ใช้เหรียญคริปโตอย่างมีความรับผิดชอบ
อัฟกานิสถาน กระทรวงสาธารณสุขวางแผนที่จะใช้ Blockchain เพื่อระบุการฉ้อโกงในด้านการแพทย์ ทั้งนี้ทั้งนั้น สถานะทางกฎหมายของเหรียญคริปโตก็ยังไม่ชัดเจน
แองโกลา ยังไม่มีกฎหมายคริปโต
แองกวิลลา มีนโยบายควบคุม ICO แต่ไม่ได้กล่าวถึงการห้ามเหรียญคริปโตแต่อย่างใด
อาร์เจนตินา ระบุว่าธนาคารกลางของพวกเขาเป็นธนาคารเดียวที่สามารถออกเหรียญคริปโตตามกฎหมายได้ และเน้นย้ำให้ประชาชนใช้งานเหรียญคริปโตอย่างมีความรับผิดชอบ
เบลีซ เบลีซยังไม่มีกฎข้อบังคับเกี่ยวกับเหรียญคริปโตจนถึงทุกวันนี้
หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ประเทศนี้ได้รับการยกย่องว่ามีทัศนคติเชิงบวกต่อ ICO แต่ไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเหรียญคริปโต โดยรัฐบาลอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมสำหรับนโยบายเหรียญคริปโต และต้องการดูว่าสถานการณ์ของเหรียญคริปโตจะเป็นอย่างไรก่อนที่จะดำเนินการต่อไป
บรูไน มีการเน้นย้ำว่าเหรียญคริปโตไม่ใช่การชำระเงินที่ถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นการเตือนจากรัฐบาล
กัมพูชา แม้ว่ารัฐบาลกำลังพัฒนาเหรียญคริปโตของตนเองที่ได้รับการสนับสนุนจาก Blockchain แต่เหรียญคริปโตยังคงมีความคลุมเครือทางกฎหมายอยู่ โดยรัฐบาลเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับเหรียญคริปโต
คอสตาริกา เหรียญคริปโตถูกเน้นว่าเป็นความเสี่ยงและทุกคนต้องแบกรับความรับผิดชอบเอง และยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเงินที่ชำระได้ตามกฎหมาย
คิวบา ไม่มีกรอบการทำงานที่ครอบคลุมในการดำเนินการกับเหรียญคริปโตภายใต้รัฐบาล อย่างไรก็ตาม กระดานแลกเปลี่ยนยังคงเปิดบริการต่อไปโดยไม่ได้มีการตอบโต้ในประเทศ
กัวเตมาลา ประชาชนได้รับคำเตือนเกี่ยวกับลักษณะการกระจายอำนาจของเหรียญคริปโต และยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายทั้งในและนอกประเทศ
เฮติ ไม่มีการกำหนดกรอบการทำงานสำหรับเหรียญคริปโต
อินเดีย แม้ว่าจะมีความกลัวว่าจะถูกแบนในช่วงต้นปี 2021 แต่รัฐบาลกำลังจะสร้างคณะกรรมการที่จะตัดสินใจว่าจะจัดการกับเหรียญคริปโตยังไง
ฮอนดูรัส Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางของประเทศ และนักลงทุนจะต้องรับผิดชอบต่อความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว
เคนยา รัฐบาลได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับลักษณะความผันผวนของเหรียญคริปโต การขาดการกำกับดูแล และความอ่อนไหวต่อกฎหมายอาญา และขอเตือนประชาชนที่ต้องการมีส่วนร่วมในกิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหรียญคริปโต
จาเมกา รัฐบาลขอเรียกร้องให้มีความระมัดระวังในการจัดการกับเหรียญคริปโต
ลัตเวีย แม้ว่าเหรียญคริปโตจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่เหรียญคริปโตยังคงอยู่ในจุดที่คลุมเครือทางกฎหมายในลัตเวียอยู่
เลโซโท เลโซโทไม่อนุญาตให้มีการดำเนินการของเหรียญคริปโตที่ไม่ได้รับอนุญาต
มาเก๊า ธนาคารกลางมาเก๊าไม่สนับสนุนการมีส่วนร่วมของเหรียญคริปโต
มาเลเซีย Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆ ไม่ใช่เงินที่ถูกกฎหมาย และรัฐบาลมาเลเซียแนะนำให้ประชาชนใช้ด้วยความระมัดระวัง และมีการเน้นย้ำถึงการใช้ Bitcoin และเหรียญคริปโตอย่างโปร่งใส
เม็กซิโก มีการเน้นย้ำให้สถาบันการเงินพูดถึงความเสี่ยงของเหรียญคริปโตให้กับประชาชน โดยยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางและไม่ถือเป็นสกุลเงินที่ใช้ชำระได้ตามกฎหมาย
มอลโดวา ธนาคารแห่งชาติมอลโดวาแนะนำให้ระมัดระวัง
มอนเตเนโกร เหรียญคริปโตถือเป็นความเสี่ยงสำหรับแต่ละคน และด้วยความที่ประเทศต้องการเข้าร่วมสหภาพยุโรปและใช้เงินยูโรในการชำระเงินตามกฎหมาย รัฐบาลจึงเทรดเหรียญคริปโตอย่างระมัดระวัง
ปากีสถาน แม้ว่าการตรวจสอบเหรียญคริปโตเพื่อหาศักยภาพในการหลีกเลี่ยงภาษีและการฟอกเงิน แต่ Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆ กลับยังไม่ได้รับการยอมรับ
ทาจิกิสถาน แม้ว่าธนาคารกลางต้องการสร้างเหรียญคริปโตของตนเอง แต่ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความปลอดภัยทางไซเบอร์น้อยที่สุดในโลก ทำให้เหรียญคริปโตเป็นการทำธุรกรรมที่ทั้งไม่ถูกหรือผิดกฎหมาย
แทนซาเนีย ชิลลิงแทนซาเนียเป็นเพียงสกุลเงินเดียวที่ได้รับการอธิบายว่าเป็นเงินที่ชำระได้ตามกฎหมาย และเหรียญคริปโตนั้นถือว่าถูกกฎหมาย แต่ก็ไม่ได้รับการสนับสนุน
ซามัว เหรียญคริปโตไม่ถือเป็นการชำระเงินตามกฎหมาย และตอนนี้ธนาคารกลางไม่สนับสนุนเนื่องจากมีลักษณะที่มีความเสี่ยงและการเก็งกำไร ใครก็ตามที่ต้องการเปิดธุรกิจด้วยเหรียญคริปโตจำเป็นต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจ และทางธนาคารกลางก็เข้าใจถึงศักยภาพของ Blockchain แล้วเรียบร้อย
ซิมบับเว เหรียญคริปโตนั้นไม่ได้รับการควบคุม แต่รัฐบาลเตือนนักลงทุนถึงการใช้งานเหรียญ โดยอธิบายถึงความเป็นไปได้ของการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการฉ้อโกง

ยิ่งมีความกลัวว่าจะมีการปราบปรามเหรียญคริปโตที่แพร่หลายเป็นวงกว้างมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อ Bitcoin ในระยะยาวมากเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ หลายๆ คนจึงยังคงระวังระบบที่ไร้ความน่าเชื่อถือและยังพึ่งพาธนาคารแบบดั้งเดิมแทน

อย่างไรก็ตาม ก็มีรัฐบาลจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เลือกที่จะยอมรับนวัตกรรมดิจิทัลและมีบทบาทในอุตสาหกรรมคริปโต ในขณะเดียวกัน เขตอำนาจศาลที่ต่อต้านอุตสาหกรรมคริปโตก็มีความเสี่ยงที่จะถูกปล่อยทิ้งเอาไว้เฉยๆ น่าแปลกที่ประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกอยู่แล้ว โดยการปราบปราม Bitcoin และเหรียญคริปโตที่แพร่หลายดูเหมือนจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจในการปรับปรุงสถานการณ์ให้ดีขึ้น ซึ่งก็ค่อนข้างต่างกันกับการยอมรับธุรกิจคริปโตด้วยกฎระเบียบที่ดี ซึ่งสร้างโอกาสทีดีในการใช้งานนวัตกรรม เงินทุน ภาษีเงินได้ และปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพของประชากรทั้งหมดได้นั่นเอง

Crypto News in numbers
editors
Authors List + 66 More
2M+
มีผู้ใช้งานรายเดือนทั่วโลกมากกว่า
250+
มีบทความรีวิวและคู่มือมากกว่า
8 ปี
อยู่ในตลาดมาแล้ว
70 คน
มีทีมงานนักเขียนนานาชาติกว่า