11 แพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตด้วยเลเวอเรจ 100 เท่า เดือน พฤษภาคม ปี 2025

Anuchit Laemsing
| 44 ใช้เวลาอ่าน (โดยเฉลี่ย)

การเทรดฟิวเจอร์คริปโตจะช่วยให้คุณเข้าถึงโทเค็นหลากหลายมากยิ้งขึ้น สร้างกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่ซับซ้อน และใช้ประโยชน์จากเงินทุนของคุณเพื่อทำการเทรดที่ใหญ่ขึ้นได้ ถึงแม้ว่าการเทรดฟิวเจอร์คริปโตอาจจะไม่เหมาะกับทุกคน แต่ก็เป็นอีกทางเลือกที่ยืดหยุ่นสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการมากกว่าทางเลือกแค่ซื้อหรือขายแบบทั่วๆ ไป

การเลือกแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจได้ว่า คุณจะสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ได้หลากหลาย มีค่าธรรมเนียมต่ำ มีเครื่องมือการเทรดที่ให้ข้อมูลเชิงลึก และอื่นๆ อีกมากมาย ในบทความนี้ เราจะมารีวิวแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตที่ดีที่สุด 11 แห่งในปี 2025 พร้อมทั้งยังสามารถใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้สูงสุดถึง 100 เท่า มาค้นหาแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดฟิวเจอร์คริปโตของคุณกันเลยดีกว่า

รายชื่อแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตที่ดีที่สุด


นี่คือรายการสรุปของแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตที่ดีที่สุด 11 แห่งในปี 2025:

แพลตฟอร์ม เงินฝากขั้นต่ำ เลเวอเรจสูงสุด เหตุผลที่แพลตฟอร์มนี้อยู่ในรายการของเรา
PrimeXBT $1 100x แพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตที่ดีที่สุดโดยรวมพร้อม Liquidity ที่สูง
MEXC $1 200x ซื้อขายฟิวเจอร์ขนาดใหญ่พร้อมสัญญากว่า 500+ รายการ ค่าธรรมเนียม 0%
Margex $10 100x เทรดฟิวเจอร์คริปโตได้มากกว่า 50 รายการด้วยเลเวอเรจ สูงสุด 100 เท่า
BloFin ไม่มี 150x เทรดฟิวเจอร์คริปโตอัตโนมัติด้วย Bot ที่สามารถปรับแต่งได้
OKX $10 125x เทรดฟิวเจอร์ USDT, USDC และ Altcoin รวมถึง Options ของ BTC และ ETH
Binance ไม่มี 75x แพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด Delivery Futures และ Crypto Options
Bybit $1 200x การเทรดสัญญา Inverse Futures สำหรับเหรียญคริปโตหลัก
KCEX ไม่ระบุ 100x แพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่มีฟีเจอร์ครบครันและไม่ต้องยืนยันตัวตน
Pionex ไม่ระบุ 125x แพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่มีบอทเทรดอัตโนมัติและฟีเจอร์ฟิวเจอร์ที่แข็งแกร่ง
Bitunix ไม่ระบุ 125x แพลตฟอร์มที่เรียบง่ายพร้อมฟีเจอร์ที่แข็งแกร่งและเข้าถึงได้อย่างสะดวก
KuCoin $1 125x แพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์ที่เป็นมิตรกับมือใหม่พร้อมสัญญากว่า 300 รายการ

รีวิวแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตชั้นนำ


เราจะมาสำรวจแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตที่เราชื่นชอบแต่ละแพลตฟอร์มในรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าแพลตฟอร์มไหนตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด

1. PrimeXBT – แพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตที่ดีที่สุดโดยรวมพร้อมสภาพคล่องที่สูง

  • ฟิวเจอร์คริปโตที่รองรับ: 30
  • ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์คริปโต: เริ่มต้นที่ 0.01%
  • เงินฝากขั้นต่ำ: $1
  • ค่าธรรมเนียมการถอน: เริ่มต้นที่ $0.50
  • เลเวอเรจสูงสุด: 100x

PrimeXBT เป็นแพลตฟอร์มที่เราจัดอันดับสูงสุดสำหรับการเทรดฟิวเจอร์คริปโต แพลตฟอร์มนี้นำเสนอโทเค็น 30 รายการสำหรับการเทรดฟิวเจอร์และให้ความสำคัญกับสภาพคล่องเป็นอย่างมาก ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณสามารถเข้าและออกจากตำแหน่งได้อย่างราบรื่นโดยไม่มี Slippage (ความคลาดเคลื่อน) นอกจากนี้ คุณยังสามารถเทรดด้วยเลเวอเรจ (Leverage) ได้สูงถึง 100 เท่าสำหรับทุกสัญญา คุณจึงไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนมหาศาลเพื่อที่จะสามารถทำกำไรในการเทรดฟิวเจอร์คริปโตได้

PrimeXBT Crypto Futures Trading Platform

PrimeXBT ยังโดดเด่นด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำในระดับผู้นำในอุตสาหกรรม คุณจ่ายเพียง 0.02% สำหรับ Market Order และ 0.01% สำหรับ Limit Order อัตรา Funding Fee สำหรับตำแหน่ง Long เริ่มต้นที่เพียง 0.0006% ซึ่งถือว่าถูกมาก

เทรดเดอร์ทุกคนที่ PrimeXBT จะได้เข้าถึงเครื่องมือการเทรดที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแพลตฟอร์ม รวมถึงอินเตอร์เฟสกราฟราคา Order Book สำหรับฟิวเจอร์คริปโต และการผสานรวม TradingView สำหรับการวิเคราะห์เพิ่มเติม ข้อดีอีกอย่างคือใช้เงินเพียง $1 ในการสมัครและเทรดเดอร์หน้าใหม่สามารถรับโบนัสต้อนรับ $500 ด้วยการฝากเงินขั้นต่ำ $300

ข้อดี

  • มีโทเค็น 30 รายการให้เลือกสำหรับการเทรดฟิวเจอร์
  • แพลตฟอร์มกราฟราคาขั้นสูงและการผสานรวม TradingView
  • ค่าธรรมเนียมเริ่มต้นที่ 0.01%
  • โบนัสต้อนรับ $500 สำหรับเทรดเดอร์ใหม่
  • รองรับการ Copy Trading

ข้อเสีย

  • ตัวเลือกการฝากเงินที่จำกัด

เยี่ยมชม PrimeXBT

2. MEXC – แพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์ขนาดใหญ่พร้อมสัญญากว่า 500 รายการ ค่าธรรมเนียมเริ่มต้นที่ 0%

  • ฟิวเจอร์คริปโตที่รองรับ: 504
  • ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์คริปโต: เริ่มต้นที่ 0%
  • เงินฝากขั้นต่ำ: $1
  • ค่าธรรมเนียมการถอน: แตกต่างกันไปตามโทเค็น
  • เลเวอเรจสูงสุด: 200x

MEXC เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีเหตุผล แพลตฟอร์มนี้เสนอสัญญาฟิวเจอร์คริปโตจำนวนมากถึง 504 รายการและ Limit Order ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำถึง 0% และน่าสนใจยิ่งขึ้น เมื่อเทรดเดอร์ใหม่ที่ MEXC สามารถรับโบนัสต้อนรับได้สูงสุดเป็นมูลค่าถึง $8,000

MEXC Crypto Futures Trading Platform

ขนาดของ MEXC หมายความว่ามีสภาพคล่องที่สูงเมื่อเทียบกับตลาดฟิวเจอร์ส่วนใหญ่ แม้ว่าอาจมี Slippage อยู่บ้างสำหรับสัญญาโทเค็นบางตัวที่มีการเทรดน้อยกว่า สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือเพื่อให้ได้ค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำสุด คุณต้องถือโทเค็น $MX ของแพลตฟอร์ม (ซึ่งยังสามารถนำไป Stake เพื่อรับผลตอบแทนสูงถึง 65% APY)

แพลตฟอร์มนี้มีฟีเจอร์มากมาย รวมถึงการ Copy Trading, กราฟเทคนิคเชิงลึก, การเทรดจำลอง และการกู้ยืม MEXC ยังจัดกิจกรรมและแจกของรางวัล ทำให้รู้สึกว่า MEXC เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มเทรดทั่วไป

ข้อดี

  • ฟิวเจอร์มากกว่า 500 รายการในหน่วย USDT และ Altcoin
  • ค่าธรรมเนียม Maker เริ่มต้นที่ 0% เมื่อถือครอง $MX
  • โบนัสต้อนรับสูงถึง $8,000
  • รองรับการ Copy Trading และการเทรดจำลอง
  • แอพเทรดมือถือที่ยอดเยี่ยม

ข้อเสีย

  • ค่าธรรมเนียม Funding สูงกว่าค่าเฉลี่ย
  • คู่มือการเรียนรู้สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่มีจำกัด

เยี่ยมชม MEXC

3. Margex – เทรดฟิวเจอร์คริปโตกว่า 50 รายการด้วยเลเวอเรจสูงถึง 100x

  • ฟิวเจอร์คริปโตที่รองรับ: 51
  • ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์คริปโต: เริ่มต้นที่ 0.019%
  • เงินฝากขั้นต่ำ: $10
  • ค่าธรรมเนียมการถอน: ไม่มี
  • เลเวอเรจสูงสุด: 100x

Margex เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการซื้อขายจำนวนมาก แพลตฟอร์มนี้มีสัญญาสำหรับโทเค็น 51 รายการ รวมถึง Meme Coins ยอดนิยม หลายตัว เลเวอเรจสูงถึง 100x มีให้สำหรับฟิวเจอร์ BTC และ ETH แต่จำกัดที่ 50x สำหรับสัญญาฟิวเจอร์คริปโตอื่นๆ ทั้งหมด

Margex Crypto Futures Trading Platform

Margex สนับสนุนการใช้ Limit Order อย่างมากด้วยโครงสร้างค่าธรรมเนียม ซึ่งเรียกเก็บ 0.019% จาก Liquidity Makers แต่เก็บ 0.060% จาก Liquidity Takers ซึ่งค่อนข้างสูง แต่เราชอบที่ Margex มีความโปร่งใสมากเกี่ยวกับค่าธรรมเนียม Funding เมื่อคุณมีตำแหน่งที่เปิดอยู่

Margex ยังเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดที่เราทดสอบ โดยให้การเข้าถึงชาร์ต TradingView, Order Book แบบเรียลไทม์และบันทึกการเทรด รวมถึงเครื่องมือสำหรับควบคุม Margin อย่างเข้มงวดตลอดการเทรด Margex ยังรองรับการ Copy Trading ด้วย ดังนั้น คุณจึงสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากกว่าได้อย่างง่ายดาย

ข้อดี

  • เทรดสัญญาฟิวเจอร์คริปโตมากกว่า 50 รายการ
  • ค่าธรรมเนียม Funding ที่โปร่งใสและต่ำ
  • ผสานรวมชาร์ต TradingView และ Order Book
  • รองรับการ Copy Trading
  • การสมัครและฝากเงินที่ง่ายดาย

ข้อเสีย

  • ค่าธรรมเนียมการเทรดที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย
  • ไม่รองรับการเทรดคริปโตแบบ Spot เลย

โปรโมชั่นสุดพิเศษ! เพียงสมัครใช้งาน Margex วันนี้ แล้วกรอกโค้ด “MARGEXBONUS”
รับโบนัสเงินฝากสำหรับเทรดเพิ่มอีก 20% หลังฝากคริปโตเคอร์เรนซี่เป็นมูลค่ารวม 100 ดอลลาร์

เยี่ยมชม Margex

4. BloFin – เทรดฟิวเจอร์คริปโตอัตโนมัติด้วย Bot ที่สามารถปรับแต่งได้

  • ฟิวเจอร์คริปโตที่รองรับ: 403
  • ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์คริปโต: เริ่มต้นที่ 0.020%
  • เงินฝากขั้นต่ำ: ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการถอน: ไม่มี
  • เลเวอเรจสูงสุด: 150x

BloFin เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตรายใหญ่ที่เสนอสัญญามากกว่า 400 รายการ ต่างจาก MEXC ตรงที่สัญญาทั้งหมดของ BloFin อยู่ในรูปแบบ USDT เท่านั้น ที่นี่มีตัวเลือกมากมายของทั้ง Meme Coins, โทเค็นสินทรัพย์จริง และโทเค็น AI ทั้งหมดพร้อมให้เทรดด้วยฟิวเจอร์ และเสนอเลเวอเรจให้สูงถึง 150 เท่า

BloFin Crypto Futures Trading Platform

หนึ่งในสิ่งที่ BloFin ไม่เหมือนใครก็คือการรองรับ Bot ในการเทรดฟิวเจอร์คริปโต ซึ่งใครก็สามารถนำไปใช้ในบัญชีของตนได้ คุณสามารถใช้ Bot เพื่อใช้ตั้งค่ากลยุทธ์ที่เฉพาะเจาะจง ใช้ประโยชน์จากพูลสภาพคล่องที่ลึกกว่า ลดค่าธรรมเนียม และอื่นๆ อีกมากมาย BloFin ยังรองรับการ Copy Trading และบัญชีทดลอง ดังนั้น จึงมีวิธีการเข้าถึงการเทรดฟิวเจอร์บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย

ค่าธรรมเนียมของ BloFin สูงกว่าค่าเฉลี่ย โดย Liquidity Makers จ่าย 0.02% ต่อการเทรดและ Liquidity Takers จ่าย 0.06% ต่อการเทรด อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มเสนออัตรา Funding ที่สูสีกับคู่แข่งรายอื่นๆ และมีส่วนลดตามปริมาณการเทรดที่สูงขึ้น

ข้อดี

  • สัญญาฟิวเจอร์มากกว่า 400 รายการในหน่วย USDT
  • รองรับ Bot เทรดฟิวเจอร์และการ Copy Trading
  • อินเตอร์เฟซการเทรดที่ใช้งานง่ายพร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค
  • มีโบนัสต้อนรับสูงถึง $5,000

ข้อเสีย

  • ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์คริปโตสูงกว่าค่าเฉลี่ย
  • ขนาดเล็กกว่าแพลตฟอร์มอื่น มีสภาพคล่องน้อยกว่า

เยี่ยมชม BloFin

5. OKX – แพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์ USDT, USDC และ Altcoin พร้อมออปชั่น BTC และ ETH

  • รองรับฟิวเจอร์คริปโต: 427
  • ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์คริปโต: เริ่มต้นที่ 0.020%
  • การฝากขั้นต่ำ: $10
  • ค่าธรรมเนียมการถอน: ไม่มี
  • เลเวอเรจสูงสุด: 125x

OKX โดดเด่นด้วยการนำเสนอไม่เพียงแค่สกุลเงินคริปโตผ่านสัญญาฟิวเจอร์จำนวนมาก แต่ยังมีตัวเลือกสกุลเงินที่หลากหลายสำหรับการเทรดฟิวเจอร์ คุณสามารถเทรดฟิวเจอร์ที่ใช้มาร์จินเป็น USDT หรือ USDC Stablecoins หรือเหรียญ Altcoin หลากหลายชนิด รวมถึง BTC, ETH, SOL, XRP, 1INCH และอื่นๆ นอกจากนี้ OKX ยังนำเสนอฟิวเจอร์ pre-market สำหรับโทเค็นที่ยังไม่เริ่มซื้อขายในตลาด Spot ของแพลตฟอร์มอีกด้วย

OKX Crypto Futures Trading Platform

OKX ยังเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มไม่กี่แห่งที่นำเสนอออปชั่น BTC และ ETH ซึ่งช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการป้องกันความเสี่ยงและเทรดในช่วงตลาดผันผวน

OKX มีเครื่องมือการเทรดที่ทรงพลังหลากหลาย รวมถึงการเทรดแบบ demo, copy trading, บอทเทรดที่ปรับแต่งได้, เครื่องมือสร้างกลยุทธ์ multi-leg และอื่นๆ เครื่องมือเหล่านี้ถูกรวมไว้ในแพลตฟอร์มเทรดที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะซึ่งใช้งานง่ายอย่างน่าประทับใจ OKX ยังมีแอปมือถือสำหรับ iOS และ Android สำหรับนักเทรดที่ต้องการความคล่องตัว

ข้อดี

  • สัญญาที่ใช้มาร์จินเป็น USDT, USDC และคริปโต
  • ฟิวเจอร์ pre-market และออปชั่น BTC และ ETH
  • เทรดอัตโนมัติด้วย copy trading และบอท
  • แอปมือถือที่ยอดเยี่ยมสำหรับ iOS และ Android

ข้อเสีย

  • ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์สูงกว่าค่าเฉลี่ย
  • สภาพคล่องต่ำสำหรับฟิวเจอร์บางตัวที่ใช้มาร์จินเป็นคริปโต

เยี่ยมชม OKX

6. Binance – แพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดฟิวเจอร์แบบ Delivery และออปชั่นคริปโต

  • รองรับฟิวเจอร์คริปโต: 416
  • ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์คริปโต: เริ่มต้นที่ 0.020%
  • การฝากขั้นต่ำ: ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการถอน: แตกต่างกันตามโทเค็น
  • เลเวอเรจสูงสุด: 75x

Binance เป็น Exchange คริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดฟิวเจอร์คริปโต จึงไม่น่าแปลกใจที่แพลตฟอร์มนี้นำเสนอผลิตภัณฑ์การเทรดที่เป็นเอกลักษณ์หลายอย่าง

Binance Crypto Futures Trading Platform

หนึ่งในผลิตภัณฑ์เหล่านี้คือฟิวเจอร์แบบ Delivery — สัญญาที่จบลงและส่งผลให้มีการส่งมอบสินทรัพย์คริปโตที่อ้างอิงไปยังกระเป๋าเงินของคุณที่ราคาใช้สิทธิ์ (Strike Price) ที่กำหนดในสัญญา สัญญาฟิวเจอร์ประเภทนี้มีให้บริการสำหรับ BTC, ETH, SOL, LINK และอื่นๆ อีกมากมาย Binance ยังเสนอออปชั่นคริปโตสำหรับ BTC, ETH, DOGE, XRP และ BNB ช่วยให้คุณมีแนวทางการเทรดโทเค็นยอดนิยมเหล่านี้ได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น

ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์ของ Binance เริ่มต้นที่ 0.02% แต่คุณสามารถรับส่วนลด 10% เมื่อเทรดด้วย BNB นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตามปริมาณสำหรับนักเทรดรายใหญ่และนักลงทุน BNB

Binance มีเครื่องมือการเทรดที่ยอดเยี่ยมมากมาย รวมถึงบอทที่พร้อมใช้งานหลายตัว, copy trading, ข้อมูลการวิจัยตลาด และอื่นๆ

ข้อดี

  • ฟิวเจอร์แบบ perpetual และ delivery รวมถึงออปชั่นคริปโต
  • ส่วนลดสำหรับผู้ถือโทเค็น BNB
  • มีบอทเทรดที่พร้อมใช้งานให้เลือกมากมาย
  • แพลตฟอร์มที่โดดเด่นพร้อมเครื่องมือวิเคราะห์และเทรดมากมาย

ข้อเสีย

  • ค่าธรรมเนียมการเทรดพื้นฐานค่อนข้างสูง
  • ตัวเลือกการเทรดที่หลากหลายอาจสร้างความสับสนให้กับมือใหม่

เยี่ยมชม Binance

7. KCEX – แพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่มีฟีเจอร์ครบครันและไม่ต้องยืนยันตัวตน

  • จำนวนคริปโตที่รองรับ: มากกว่า 600 รายการ
  • ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์คริปโต: 0% สำหรับ Maker, 0.02% สำหรับ Taker
  • เงินฝากขั้นต่ำ: ไม่ระบุ (ฝากได้เฉพาะคริปโต)
  • ค่าธรรมเนียมการถอน: ขึ้นอยู่กับสกุลเงินคริปโต
  • เลเวอเรจสูงสุด: 100x

KCEX เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 และจดทะเบียนในประเทศเซเชลส์ แพลตฟอร์มนี้นำเสนอบริการเทรดทั้งแบบ Spot และ Futures โดยรองรับคริปโตมากกว่า 600 รายการ ซึ่งรวมถึงเหรียญหลักอย่าง Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH) และ Stablecoin อย่าง USDT และ USDC รวมถึง เหรียญมีมยอดนิยม อย่าง Dogecoin และ Shiba Inu ด้วย

KCEX โดดเด่นด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก โดยไม่มีค่าธรรมเนียม Maker (0%) สำหรับการเทรดทั้งแบบ Spot และ Futures ส่วนค่าธรรมเนียม Taker สำหรับการเทรด Futures อยู่ที่เพียง 0.02% ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดบ่อยๆ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเทรดด้วยเลเวอเรจได้สูงถึง 100 เท่าสำหรับการเทรดฟิวเจอร์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกลยุทธ์ความเสี่ยงสูงเพื่อผลตอบแทนสูง

แพลตฟอร์มของ KCEX ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย มีสภาพคล่องสูง และมาพร้อมกับเครื่องมือขั้นสูงอย่างกราฟ TradingView, Fibonacci retracements และการปรับแต่งเลย์เอาต์สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค นอกจากนี้ยังมีแอพมือถือที่ให้เข้าถึงเครื่องมือการเทรดได้อย่างราบรื่น และสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้มากกว่า 100,000 รายการต่อวินาที

ข้อดี

  • ไม่จำเป็นต้องยืนยันตัวตน (KYC) ในการเทรด
  • รองรับคริปโตมากกว่า 600 รายการ
  • ค่าธรรมเนียม Maker 0% สำหรับทั้ง Spot และ Futures
  • จัดการแข่งขันเทรดฟิวเจอร์รายวันพร้อมรางวัล
  • มีบริการลูกค้าตลอด 24/7

ข้อเสีย

  • ไม่รองรับการฝากหรือถอนด้วยสกุลเงินเฟียต (Fiat)
  • มีข้อจำกัดในบางประเทศ (แคนาดา, สิงคโปร์ และอื่นๆ)
  • มีรายงานปัญหาเกี่ยวกับการถอนเงินและการเข้าถึงโบนัส
  • ตัวเลือก Altcoins ที่ไม่เป็นที่นิยมค่อนข้างจำกัด

[/su_list][/su_column][/su_row]

เยี่ยมชม KCEX

8. Bybit – การเทรดฟิวเจอร์คริปโตแบบ Inverse สำหรับเหรียญคริปโตชั้นนำ

  • รองรับฟิวเจอร์คริปโต: 553
  • ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์คริปโต: เริ่มต้นที่ 0.020%
  • การฝากขั้นต่ำ: $1
  • ค่าธรรมเนียมการถอน: แตกต่างกันตามโทเค็น
  • เลเวอเรจสูงสุด: 200x

Bybit เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตที่โดดเด่นด้วยสัญญาที่มีให้เลือกมากมาย รวมถึงสัญญาที่ใช้มาร์จินเป็น USDT และเหรียญคริปโต, ออปชั่นคริปโต, และสัญญาฟิวเจอร์คริปโตแบบ inverse สัญญาแบบ inverse น่าสนใจเป็นพิเศษเพราะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเดิมพันเพื่อสวนทางกับตลาดได้

Bybit Crypto Futures Trading Platform

แพลตฟอร์มนี้มีค่าธรรมเนียมเริ่มต้นที่ 0.020% ซึ่งสอดคล้องกับกระดานเทรดฟิวเจอร์รายใหญ่อื่นๆ ค่าธรรมเนียม Funding มีความแข่งขันและโปร่งใส และ Bybit ยังกำจัดค่าธรรมเนียมบัญชีหลายอย่างที่เพิ่มต้นทุนในกระดานเทรดอื่นๆ

เรายังชื่นชอบแพลตฟอร์มการเทรดของ Bybit ซึ่งมีการผสานรวมกราฟ TradingView, เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค และตัวเลือกสำหรับ copy trading, บอทเทรด และการเทรดแบบเดโม่ นอกจากนี้ Bybit ยังมีเครื่องจำลองกำไร/ขาดทุนที่สะดวกสำหรับการเทรดฟิวเจอร์และแชทบอทเทรดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่คุณสามารถใช้สร้างกลยุทธ์การเทรดคริปโตรายวันได้

ข้อดี

  • มีตัวเลือกฟิวเจอร์มากมายรวมถึงฟิวเจอร์แบบ inverse
  • การผสานรวมกราฟ TradingView และเครื่องมือวิเคราะห์
  • แชทบอทเทรดที่ขับเคลื่อนด้วย AI
  • นำเสนอฟิวเจอร์แบบ perpetual สำหรับโทเค็น pre-market

ข้อเสีย

  • มีความชันในการเรียนรู้สูงสำหรับนักเทรดฟิวเจอร์มือใหม่
  • ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์สูงกว่าค่าเฉลี่ย

เยี่ยมชม Bybit

9. Pionex – แพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่มีบอทเทรดอัตโนมัติและฟีเจอร์ฟิวเจอร์ที่แข็งแกร่ง

  • จำนวนคริปโตที่รองรับ: มากกว่า 230 รายการ
  • ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์คริปโต: เริ่มต้นที่ 0.05% ต่อการเทรด
  • เงินฝากขั้นต่ำ: ไม่ระบุ
  • ค่าธรรมเนียมการถอน: ขึ้นอยู่กับสกุลเงินคริปโต
  • เลเวอเรจสูงสุด: 125x

Pionex เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่โดดเด่นด้วยบอทเทรดอัตโนมัติที่มีนวัตกรรมและฟีเจอร์การเทรดฟิวเจอร์ที่แข็งแกร่ง แพลตฟอร์มนี้รองรับคริปโตมากกว่า 230 รายการสำหรับการฝากและถอน ซึ่งรวมถึง Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Tether (USDT), Solana (SOL) และ Dogecoin (DOGE) นอกจากนี้ยังมีสัญญาฟิวเจอร์แบบ USDT-M และ Coin-M สำหรับคู่เทรดที่หลากหลายเช่น BTC/ETH และ ETH/SOL

Pionex โดดเด่นด้วยบอทเทรดอัตโนมัติ 12 ตัวที่มีให้ใช้งาน เช่น Grid Trading Bot และ DCA Bot ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้กลยุทธ์อัตโนมัติเพื่อเพิ่มกำไรในช่วงตลาดผันผวน โดยบอทเหล่านี้ใช้งานง่ายและไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ด้านการเขียนโค้ด Grid Bot เป็นที่นิยมเป็นพิเศษสำหรับการเทรดฟิวเจอร์ เนื่องจากสามารถวางคำสั่งซื้อและขายโดยอัตโนมัติภายในช่วงราคาที่กำหนดได้

แพลตฟอร์มนี้รองรับเลเวอเรจสูงถึง 125 เท่าสำหรับการเทรดฟิวเจอร์ ทำให้เทรดเดอร์สามารถเพิ่มขนาดตำแหน่งของตนด้วยเงินทุนที่ค่อนข้างน้อย นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกมาร์จิ้นทั้งแบบแยก (Isolated) และแบบไขว้ (Cross) สำหรับการจัดการความเสี่ยง พร้อมด้วยเครื่องมือจัดการความเสี่ยงขั้นสูง เช่น คำสั่ง Take-Profit/Stop-Loss (TP/SL) และฟีเจอร์ Trailing Stop-Loss ที่ช่วยให้เทรดเดอร์บรรเทาความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาวะตลาดที่ผันผวน

ข้อดี

  • บอทเทรดอัตโนมัติ: ช่วยให้การเทรดง่ายขึ้นสำหรับมือใหม่ พร้อมกลยุทธ์ขั้นสูงสำหรับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์
  • เลเวอเรจสูง: รองรับถึง 125x เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
  • ค่าธรรมเนียมต่ำ: มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่เทียบเคียงได้กับแพลตฟอร์มชั้นนำอื่นๆ
  • ความปลอดภัย: มีการตรวจสอบสินทรัพย์สำรอง, ใบอนุญาต MSB จาก FinCEN และการยืนยันตัวตนแบบสองชั้น
  • รองรับคริปโตหลากหลาย: มีให้เลือกกว่า 230 เหรียญสำหรับการเทรดฟิวเจอร์

ข้อเสีย

  • ข้อจำกัดด้านภูมิภาค: การเทรดฟิวเจอร์ไม่สามารถใช้งานได้ในสหรัฐอเมริกา
  • ต้องยืนยันตัวตนแบบเต็มรูปแบบ: ผู้ใช้ต้องทำการยืนยันตัวตน (KYC) เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมด
  • ข้อจำกัดของบอท: แม้ว่าบอทจะมีประสิทธิภาพ แต่อาจไม่สามารถปรับตัวได้ดีกับการเปลี่ยนแปลงตลาดอย่างฉับพลันโดยไม่มีการแทรกแซงด้วยตนเอง
  • รีวิวผู้ใช้งานแบบผสมผสาน: แม้ว่าผู้ใช้จำนวนมากจะชื่นชมบอทและความง่ายในการใช้งาน แต่บางคนกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสหรือความคาดหวังที่ไม่สมจริงจากระบบการเทรดอัตโนมัติ

เยี่ยมชม Pionex

10. Bitunix – แพลตฟอร์มที่เรียบง่ายพร้อมฟีเจอร์ที่แข็งแกร่งและเข้าถึงได้อย่างสะดวก

  • จำนวนคริปโตที่รองรับ: มากกว่า 300 รายการ
  • ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์คริปโต: ระบบอัตราค่าธรรมเนียมแบบเป็นขั้น (VIP)
  • เงินฝากขั้นต่ำ: ไม่ระบุ
  • ค่าธรรมเนียมการถอน: มีรายงานความไม่ชัดเจนในบางกรณี
  • เลเวอเรจสูงสุด: 125x

Bitunix เป็นแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์สคริปโตที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความเรียบง่าย ฟีเจอร์ที่แข็งแกร่ง และการเข้าถึงที่ง่ายดาย แพลตฟอร์มนี้รองรับคริปโตมากกว่า 300 รายการและมีคู่เทรดมากกว่า 300 คู่ ถูกออกแบบมาสำหรับนักเทรดระดับเริ่มต้นถึงระดับกลาง โดยมอบอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและช่วยให้การเทรดทั้งแบบ Spot และ Futures เป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อน

Bitunix โดดเด่นด้วยเครื่องมือเทรดขั้นสูง เช่น การเทรดแบบหลายหน้าต่างที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการกลยุทธ์หลายอย่างได้พร้อมกัน การผสานรวมกับ TradingView ที่ให้การเข้าถึงเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น ประเภทกราฟ ตัวบ่งชี้ และเครื่องมือวาด นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Copy Trading ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำตามกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จได้ด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์และความโปร่งใส

แพลตฟอร์มนี้รองรับการเทรดฟิวเจอร์ด้วยเลเวอเรจสูงถึง 125 เท่า ซึ่งเหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ที่มองหาโอกาสความเสี่ยงและผลตอบแทนที่สูงขึ้น นอกจากนี้ Bitunix ยังมีแอพมือถือสำหรับ iOS และ Android ที่ช่วยให้การเทรดเป็นไปอย่างราบรื่นแม้ขณะเดินทาง พร้อมด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างการยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) การเก็บรักษาในกระเป๋าเงินแบบเย็น (Cold Wallet) รหัสป้องกันการฟิชชิ่ง และการพิสูจน์เงินสำรอง

ข้อดี

  • การเข้าถึง: ดำเนินการในกว่า 100 ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ แคนาดา และฟิลิปปินส์
  • ตัวเลือกการชำระเงินที่ยืดหยุ่น: ผู้ใช้สามารถฝากหรือซื้อคริปโตโดยใช้บัตรเครดิต/เดบิต โอนเงินผ่านธนาคาร Apple Pay และอื่นๆ
  • โครงสร้างค่าธรรมเนียมที่โปร่งใส: ระบบ VIP แบบเป็นขั้นช่วยลดค่าธรรมเนียมตามปริมาณการเทรดและยอดคงเหลือในบัญชี
  • ตัวเลือกไม่ต้องยืนยันตัวตน (No-KYC): ผู้ใช้สามารถเทรดโดยไม่ต้องยืนยันตัวตนสำหรับฟีเจอร์บางอย่าง
  • โปรแกรมรางวัล: ผู้ใช้ใหม่สามารถรับรางวัลสูงถึง 5,500 USDT ผ่านภารกิจและแคมเปญ

ข้อเสีย

  • ปัญหาความโปร่งใสของค่าธรรมเนียม: ผู้ใช้บางรายรายงานความคลุมเครือเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการฝากและถอนเงิน
  • ความเสี่ยงจากเลเวอเรจสูง: แม้ว่าเลเวอเรจจะช่วยเพิ่มผลกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกบังคับชำระบัญชีในสภาวะตลาดที่ผันผวน
  • วิธีการชำระเงินที่จำกัดในบางภูมิภาค: การทำธุรกรรมด้วยเงินเฟียตอาจไม่ได้รับการสนับสนุนในทุกพื้นที่
  • ข้อกำหนดการยืนยันตัวตนสำหรับฟีเจอร์เฉพาะ: แม้ว่าการเทรดแบบไม่ต้องยืนยันตัวตน (No-KYC) จะมีให้สำหรับฟังก์ชันบางอย่าง แต่บางฟังก์ชันก็ต้องการการยืนยันตัวตน

เยี่ยมชม Bitunix

11. KuCoin – Exchange ฟิวเจอร์ที่เป็นมิตรกับมือใหม่พร้อมสัญญามากกว่า 300 รายการ

  • รองรับฟิวเจอร์คริปโต: 316
  • ค่าธรรมเนียมการเทรดฟิวเจอร์คริปโต: เริ่มต้นที่ 0.020%
  • การฝากขั้นต่ำ: $1
  • ค่าธรรมเนียมการถอน: แตกต่างกันตามโทเค็น
  • เลเวอเรจสูงสุด: 125x

KuCoin เป็นแพลตฟอร์มการเทรดฟิวเจอร์ที่ได้รับความนิยมในหมู่มือใหม่เพราะให้ความสำคัญกับความสะดวกในการใช้งานพร้อมกับนำเสนอความสามารถในการเทรดที่ยอดเยี่ยม แพลตฟอร์มเทรดนี้มีสัญญาฟิวเจอร์มากกว่า 300 รายการบวกกับโทเค็นแบบเลเวอเรจและมาร์จินที่สูงถึง 125x นอกจากนี้ คุณยังสามารถเข้าถึงบอทเทรดแบบ grid และระบบจับคู่คำสั่งซื้อขายประสิทธิภาพสูงของ KuCoin ได้

Kucoin Crypto Futures Trading Platform

KuCoin คิดค่าธรรมเนียม maker/taker ที่ 0.020%/0.060% ซึ่งเทียบเคียงได้กับแพลตฟอร์มฟิวเจอร์รายใหญ่อื่นๆ แม้ว่าจะไม่ใช่ค่าธรรมเนียมที่ถูกที่สุด แต่แพลตฟอร์มนี้ก็ตอบแทนผู้ใช้งานด้วยรางวัลและโบนัสที่คุณสามารถรับได้ผ่านการเทรด ตอนนี้นักเทรดใหม่ที่ KuCoin สามารถรับเงินได้สูงถึง $10,800

UI ของ KuCoin ใช้งานได้ง่าย อีกทั้ง แอปมือถือของแพลตฟอร์มสำหรับ iOS และ Android ก็ใช้งานได้สะดวกอย่างมาก นอกจากนี้ KuCoin ยังมีบทความการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยมเพื่อช่วยให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดฟิวเจอร์คริปโตได้อีกด้วย

ข้อดี

  • นำเสนอโทเค็นแบบเลเวอเรจ นอกเหนือจากสัญญาฟิวเจอร์
  • รองรับ copy trading และบอทเทรดแบบ grid
  • โบนัสต้อนรับมูลค่าสูงถึง $10,800
  • บทความการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเทรดฟิวเจอร์

ข้อเสีย

  • เลเวอเรจจำกัดสำหรับโทเค็นหลายๆ ตัว
  • ไม่มีส่วนลดตามปริมาณสำหรับนักเทรดประจำ

วิธีการที่เราใช้จัดอันดับแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโต


เราพิจารณาจากปัจจัยหลายๆ อย่างเมื่อเลือกแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตที่ดีที่สุด นี่คือสิ่งต่างๆ ที่เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

  • สัญญาที่รองรับ:เราให้ความสำคัญมากกับกระดานเทรดที่มีโทเค็นคริปโตให้เลือกหลากหลาย ซึ่งสามารถเทรดผ่านสัญญาฟิวเจอร์ได้ นอกจากนี้ เรายังมองหาสัญญาที่ใช้ USDC และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ (Altcoin) เป็นหลักประกัน ไม่ใช่แค่ฟิวเจอร์ที่ใช้ USDT เท่านั้น ผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ประเภทอื่น เช่น ออปชั่นคริปโต, ฟิวเจอร์แบบ inverse (คำนวณกำไรขาดทุนในสกุลเงินดิจิทัล) และโทเค็นแบบใช้เลเวอเรจ (มีการกู้ยืมเพื่อเพิ่มกำลังซื้อ) ก็เป็นปัจจัยที่เราใช้ในการจัดอันดับด้วย
  • ค่าธรรมเนียมการเทรด: กระดานเทรดส่วนใหญ่คิดโครงสร้างค่าธรรมเนียมแบบ maker/taker โดยมีค่าธรรมเนียมประมาณ 0.020%/0.050% อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์บางแห่งมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่ามาก ซึ่งช่วยให้คุณทำกำไรได้มากขึ้น เรายังพิจารณาเรื่องค่าธรรมเนียม funding ด้วย แม้ว่าอัตรานี้จะผันผวนได้มากตามสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา
  • เลเวอเรจ: เลเวอเรจ คือ การช่วยให้คุณใช้ตำแหน่งขนาดใหญ่ด้วยเงินทุนจำนวนเล็กและใช้เงินทุนของคุณได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น เราจึงให้คะแนนกระดานเทรดที่เสนอเลเวอเรจสูงๆ ไว้เป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มที่ให้เลเวอเรจสูงกับสัญญาทุกประเภท ไม่ใช่แค่บางสัญญาเท่านั้น
  • เครื่องมือวิเคราะห์: เรามองหาเครื่องมือวิเคราะห์ในตัว รวมถึงเครื่องมือกราฟทางเทคนิค, สมุดคำสั่งซื้อขายที่โปร่งใส, การวิจัยตลาด และอื่นๆ เครื่องจำลองกำไรและขาดทุนมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ แม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่แพลตฟอร์มเทรด เช่น Bybit ที่นำเสนอสิ่งนี้

Crypto Futures Trading Tools at Bybit

  • ฟีเจอร์การเทรดอัตโนมัติ: แพลตฟอร์มเทรดส่วนใหญ่ที่เราพิจารณานำเสนอบริการ copy trading และบอทเทรด เมื่อเปรียบเทียบบอท เมื่อเปรียบเทียบบอทเทรดระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆ เรามุ่งเน้นประเมินทั้งตัวเลือกพื้นฐานที่มีให้ใช้งานได้ทันที และความสามารถในการปรับแต่งบอทให้เข้ากับกลยุทธ์การเทรดของคุณเอง
  • ประสบการณ์การใช้งาน: เมื่อเปรียบเทียบแพลตฟอร์ม เราพิจารณาความง่ายในการใช้งานโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสบการณ์บนมือถือ เนื่องจากนักเทรดหลายคนต้องเปิดและปิดตำแหน่งขณะเดินทาง การประเมินของเราครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่ความสะดวกในการลงทะเบียน ความง่ายในการส่งคำสั่งซื้อขาย ไปจนถึง กระบวนการถอนเงินที่ราบรื่นไม่มีปัญหา
  • ข้อเสนอโบนัส:แพลตฟอร์มการเทรดฟิวเจอร์คริปโตหลายแห่งมีโบนัสต้อนรับและโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโอกาสให้คุณได้รับเงินเพิ่มโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แม้ว่าเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับข้อเสนอเหล่านี้มากนักในการวิเคราะห์ของเรา แต่เราก็นำมาพิจารณาประกอบเมื่อทำการจัดอันดับขั้นสุดท้าย
  • ความปลอดภัยและใบอนุญาต:เราพิจารณาเฉพาะแพลตฟอร์มการเทรดที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มแข็ง และมีประวัติการให้บริการลูกค้าอย่างดีมาหลายปี อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกแพลตฟอร์มที่เราตรวจสอบจะมีใบอนุญาตหรืออยู่ภายใต้การกำกับดูแล ดังนั้น เราจึงให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือโดยรวมของแต่ละกระดานเทรดเป็นปัจจัยหลักในการประเมินของเรา

สำหรับมือใหม่ที่อยากลองเสี่ยงโชคในตลาดนี้ควรศึกษาพื้นฐานของ วิธีเทรดคริปโต เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น

เปรียบเทียบแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตที่ดีที่สุด


ต้องการเปรียบเทียบแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตชั้นนำแบบตัวต่อตัวหรือไม่? ตารางด้านล่างแสดงข้อมูลสำคัญ เช่น จำนวนสัญญา ค่าธรรมเนียมการเทรด และข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับความต้องการในการเทรดของคุณ

จำนวนฟิวเจอร์คริปโต เลเวอเรจสูงสุด ค่าธรรมเนียม Maker ค่าธรรมเนียม Taker ยอดฝากขั้นต่ำ ค่าธรรมเนียมการถอน
PrimeXBT 30 100x 0.010% 0.020% $1 $0.50
Margex 51 100x 0.019% 0.060% $10 ไม่มี
MEXC 504 200x 0.000% 0.010% $1 แตกต่างตามโทเคน
BloFin 403 150x 0.020% 0.060% ไม่มี ไม่มี
OKX 427 125x 0.020% 0.050% $10 ไม่มี
Binance 416 75x 0.020% 0.050% ไม่มี แตกต่างตามโทเคน
Bybit 553 200x 0.020% 0.055% $1 แตกต่างตามโทเคน
KuCoin 316 125x 0.020% 0.060% $1 แตกต่างตามโทเคน

ตลาดเทรดฟิวเจอร์คืออะไร?


ตลาดเทรดฟิวเจอร์คริปโต คือ ตลาดที่เปิดโอกาสให้นักเทรดสามารถคาดการณ์ราคาในอนาคตของสกุลเงินดิจิทัล ตัวอย่างเช่น นักเทรดสามารถซื้อสัญญาฟิวเจอร์ที่กำหนดให้เขาต้องซื้อ Bitcoin ในราคาที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า ณ วันที่กำหนดในอนาคต

สัญญาฟิวเจอร์คริปโตช่วยให้นักเทรดสามารถกำหนดราคาแน่นอนไว้ล่วงหน้าและลดความเสี่ยงจากความผันผวนในตลาดคริปโต สัญญาเหล่านี้มีรูปแบบมาตรฐานและสามารถซื้อขายผ่านกระดานเทรดที่เราได้รีวิวไว้ข้างต้น ทำให้นักเทรดสามารถซื้อขายฟิวเจอร์สำหรับสกุลเงินดิจิทัลหลากหลายประเภทได้อย่างสะดวก

การเทรดฟิวเจอร์คริปโตทำงานอย่างไร?


สัญญาฟิวเจอร์คริปโต คือ ข้อตกลงที่จะซื้อสินทรัพย์คริปโตที่เฉพาะเจาะจงในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ณ วันและเวลาที่ระบุในอนาคต เมื่อถึงวันที่สัญญาหมดอายุ นักเทรดหรือกระดานเทรดที่ออกสัญญาจะต้องโอนสกุลเงินดิจิทัลที่ระบุไว้ให้กับผู้ถือสัญญา

แต่ในความเป็นจริง แทบจะไม่มีการโอนสกุลเงินดิจิทัลให้กันจริงๆ เนื่องจากสัญญาฟิวเจอร์คริปโตส่วนใหญ่เป็นแบบ “perpetual” (ไม่มีวันหมดอายุ) ซึ่งหมายความว่าไม่มีกำหนดสิ้นสุดและสามารถต่ออายุเป็นสัญญาใหม่ได้ตลอดเวลา โดยมีอัตรา funding rate — ค่าธรรมเนียมที่ผู้ถือสัญญาต้องจ่ายตราบเท่าที่ยังถือสัญญาอยู่ — ช่วยรักษาให้มูลค่าของสัญญามีความสอดคล้องกับราคาตลาดจริงอยู่เสมอ

นี่หมายความว่าการเทรดฟิวเจอร์คริปโตมักทำเพื่อเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสกุลเงินดิจิทัลในอนาคตเท่านั้น นักเทรดสามารถซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์แบบไม่มีวันหมดอายุได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของหรือรับมอบสินทรัพย์ที่อ้างอิงในสัญญา ซึ่งทำให้การเข้าถึงตลาดฟิวเจอร์ง่ายขึ้นมากสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

เปรียบเทียบการเทรดฟิวเจอร์คริปโตกับการเทรดคริปโตทั่วไป


การเทรดฟิวเจอร์คริปโตมีข้อได้เปรียบหลายประการเมื่อเทียบกับการเทรดโทเค็นคริปโตโดยตรง

เลเวอเรจ คือ สิ่งที่ช่วยให้ทำกำไรได้มหาศาล

หนึ่งในข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของการเทรดฟิวเจอร์คริปโต คือ การใช้เลเวอเรจ ซึ่งมักสูงถึง 100 เท่า หรือมากกว่า นั่นหมายความว่าหากคุณมีเงินทุน 1,000 ดอลลาร์ คุณสามารถเปิดการเทรดที่มีมูลค่าสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ได้—ทำให้การเปลี่ยนแปลงราคาเพียงเล็กน้อยสามารถสร้างกำไรจำนวนมาก เลเวอเรจสูงยังช่วยให้คุณบริหารเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคุณจะไม่พลาดโอกาสในการเทรดขณะที่เงินทั้งหมดของคุณถูกใช้ไปกับตำแหน่งเดียว

คุณสามารถใช้เลเวอเรจในการเทรดคริปโตโดยตรงได้เช่นกัน แต่แพลตฟอร์มมักจะอนุญาตให้ใช้เลเวอเรจในระดับที่ต่ำกว่ามาก กระดานเทรดคริปโตชั้นนำส่วนใหญ่จะอนุญาตให้ใช้เลเวอเรจเพียง 10 เท่าหรือน้อยกว่าสำหรับการเทรดสกุลเงินหลัก เช่น Bitcoin หรือ Ethereum และอนุญาตให้ใช้เลเวอเรจเพียง 2 เท่าสำหรับการเทรดสกุลเงินรองหลายตัว

Bybit Crypto Futures Analysis

ความยืดหยุ่น ช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอีกประการของการเทรดฟิวเจอร์คริปโต คือ มีความยืดหยุ่นมากกว่าเมื่อเทียบกับการเทรดสกุลเงินดิจิทัลโดยตรง ประการแรก คุณสามารถใช้ฟิวเจอร์เพื่อทำกำไรในตลาดขาลง (Short) ได้ หากคุณคาดการณ์ว่าราคาจะลดลง คุณสามารถซื้อสัญญาฟิวเจอร์ที่มีราคาใช้สิทธิ์ (Strike Price) ต่ำกว่าราคาปัจจุบันของสกุลเงินดิจิทัลนั้นได้

นอกจากนี้ คุณยังสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดที่ซับซ้อนด้วยฟิวเจอร์ โดยการซื้อสัญญาที่มีราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุที่แตกต่างกัน วิธีนี้ช่วยให้คุณเดิมพันได้ว่าความผันผวนจะเพิ่มขึ้นในระยะสั้นแต่จะลดลงในระยะยาว เป็นต้น

กลยุทธ์ที่ซับซ้อนเหล่านี้ไม่สามารถทำได้เมื่อเทรดสกุลเงินดิจิทัลโดยตรง เพราะคุณมีทางเลือกเพียงแค่ซื้อหรือขายเท่านั้น

สภาพคล่องสูง

ตลาดฟิวเจอร์คริปโตและตลาดคริปโตแบบ Spot มีสภาพคล่องสูงทั้งคู่ โดยเฉพาะสำหรับเหรียญคริปโตยอดนิยม ตลาดฟิวเจอร์ Bitcoin เพียงอย่างเดียวมีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน 2024

อย่างไรก็ตาม ข้อได้เปรียบประการหนึ่งของตลาดฟิวเจอร์คือมักจะรองรับเฉพาะโทเค็นที่มีสภาพคล่องสูงเท่านั้น ในขณะที่ตลาด Spot นั้นอาจจะรวมไปถึง โทเค็นที่มีมูลค่าตลาดต่ำ ที่มีปริมาณการซื้อขายน้อย ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดราคาคลาดเคลื่อน (Slippage) มากกว่าเมื่อทำการซื้อขายโดยตรงกับเหรียญบางประเภท

การจัดการความเสี่ยง

ฟิวเจอร์คริปโตสามารถใช้ร่วมกับการซื้อคริปโตแบบ Spot เพื่อจัดการความเสี่ยงได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีตำแหน่ง Long ใน Bitcoin คุณสามารถป้องกันความเสี่ยงโดยเปิดสัญญาฟิวเจอร์ฝั่ง Short (คาดว่า Bitcoin จะไม่เพิ่มขึ้นมาก) ได้ ด้วยวิธีนี้ หากราคา Bitcoin ลดลงทำให้ตำแหน่ง Long ของคุณขาดทุน คุณจะได้กำไรจากสัญญาฟิวเจอร์ฝั่ง Short มาชดเชยการสูญเสียบางส่วนได้

ข้อดีและข้อเสียของการเทรดฟิวเจอร์คริปโต


ในขณะที่การเทรดฟิวเจอร์คริปโตมีข้อดีอยู่มากมาย แต่ก็มีข้อเสียบางประการที่ควรรู้ด้วย นี่คือสรุปข้อดีและข้อเสียของการเทรดฟิวเจอร์คริปโตเมื่อเทียบกับการเทรดคริปโตโดยตรงแบบสปอต

ข้อดี

  • เลเวอเรจสูง (สูงถึง 200x)
  • ค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำมาก โดยเฉพาะสำหรับ Limit Order
  • กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่ยืดหยุ่นมากขึ้น
  • มีตัวเลือกในการ Short โทเค็นคริปโต
  • สามารถกำหนดเป็น Stablecoin หรือ Atlcoin ได้
  • สภาพคล่องสูงมากในสัญญาส่วนใหญ่
  • ตลาดที่โปร่งใสสูง

ข้อเสีย

  • เลเวอเรจสามารถเป็นดาบสองคมหากการเทรดผิดพลาด
  • ต้องจ่ายค่า Funding Fee ขณะที่ยังเปิดตำแหน่งอยู่
  • สัญญาไม่มีสำหรับเหรียญรองทุกตัว
  • คุณไม่ได้เป็นเจ้าของคริปโตเคอเรนซีจริงๆ

ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโต


เช่นเดียวกับการเทรดคริปโตประเภทอื่นๆ เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องทำความเข้าใจถึงค่าธรรมเนียมที่คุณจะต้องจ่ายเมื่อใช้แพลตฟอร์มเทรด ต่อไปนี้คือประเภทหลักๆ ของค่าธรรมเนียมในการเทรดฟิวเจอร์คริปโตและวิธีการทำงานของมัน

ค่าธรรมเนียมการเทรด

ค่าธรรมเนียมการเทรดคือจำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายเมื่อซื้อหรือขายฟิวเจอร์ ค่าธรรมเนียมแบ่งตามประเภทผู้เทรด: “Maker” (ผู้เพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด) และ “Taker” (ผู้ใช้สภาพคล่องจากตลาด) โดยทั่วไป Limit Order ถือเป็น Maker เพราะรอให้มีคนมาจับคู่ ส่วน Market Order จะถือเป็น Taker เพราะจับคู่กับคำสั่งที่มีอยู่แล้วทันที

ค่าธรรมเนียม Maker มักจะต่ำกว่า Taker มาก เช่น Margex คิด 0.019% สำหรับ Maker แต่คิด 0.060% (มากกว่า 3 เท่า) สำหรับ Taker ในขณะที่ MEXC ไม่คิดค่าธรรมเนียมเลยสำหรับ Maker

ค่า Funding Fee

Funding Fee คือค่าธรรมเนียมสำหรับสัญญาฟิวเจอร์แบบไม่มีวันหมดอายุ โดยต้องจ่ายตราบใดที่ยังเปิดตำแหน่งอยู่ ส่วนใหญ่จะเก็บทุกๆ 8 ชั่วโมงเพื่อรักษาราคาสัญญาให้สอดคล้องกับราคาจริงของสินทรัพย์ แต่บางแพลตฟอร์มอาจจะเก็บถี่กว่านั้น

Funding Fee มีความแตกต่างกันอย่างมากขึ้นอยู่กับเหรียญที่เทรดและความผันผวนของตลาด บางครั้งคุณอาจจะได้รับ Funding Fee แทนที่จะต้องจ่าย แพลตฟอร์มส่วนใหญ่นั้นคิดในอัตราที่ใกล้เคียงกัน แต่ต้องคำนึงด้วยว่า Funding Fee มีผลต่อกำไรของคุณเช่นกัน

ค่าธรรมเนียมการฝาก

แพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์สคริปโตที่เรารีวิวนั้นไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมเมื่อฝากคริปโต แต่หากคุณฝากด้วยสกุลเงินเฟียต (เช่น บาท, ดอลลาร์) และแปลงเป็น USDT หรือคริปโตอื่นๆ คุณจะเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 1% สำหรับการโอนผ่านธนาคาร หรือสูงถึง 3.5% สำหรับบัตรเครดิตและเดบิต

ค่าธรรมเนียมการถอน

บางแพลตฟอร์ม เช่น BloFin และ OKX ไม่คิดค่าธรรมเนียมการถอนคริปโต แต่ส่วนใหญ่คิดค่าธรรมเนียมเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับประเภทของคริปโตที่ถอน เช่น Binance คิด 0.0001 BTC (ประมาณ $7) สำหรับการถอน Bitcoin นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมเครือข่ายบล็อกเชนที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว ซึ่งแพลตฟอร์มไม่สามารถควบคุมได้

แพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตถูกกฎหมายหรือไม่?


แพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตในสหรัฐอเมริกาต้องได้รับการกำกับดูแลโดย Commodity Futures Trading Commission (CFTC) จึงจะถือว่าดำเนินการอย่างถูกกฎหมาย ตัวอย่างของแพลตฟอร์มที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ CFTC และเสนอบริการฟิวเจอร์คริปโตให้นักเทรดในสหรัฐฯ ได้แก่ Bybit และ Binance

อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มการเทรดฟิวเจอร์ชั้นนำหลายแห่งที่เรารีวิวไม่รับนักเทรดจากสหรัฐฯ เนื่องจากกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับอนุพันธ์คริปโตในสหรัฐฯ แพลตฟอร์มเหล่านี้ดำเนินการอย่างถูกกฎหมายในประเทศอื่นๆ ๆ

เคล็ดลับในการรักษาความปลอดภัยเมื่อเทรดฟิวเจอร์คริปโต


เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปกป้องตัวเองเมื่อเทรดฟิวเจอร์คริปโต นี่คือเคล็ดลับสำคัญของเราสำหรับวิธีการรักษาความปลอดภัยในตลาด

  • หลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจมากเกินไป: เลเวอเรจ คือ ดาบสองคม ในขณะที่มันสามารถเพิ่มกำไรเมื่อเทรดสำเร็จ แต่ก็จะทำให้ขาดทุนมากขึ้นหากการเทรดไม่เป็นไปตามคาด ควรใช้เลเวอเรจในระดับต่ำ (10x-25x) สำหรับการเทรดส่วนใหญ่ และพิจารณาความเสี่ยงในทุกการเทรดให้รอบคอบ
  • ระวัง Funding Fee: สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า Funding Fee สามารถส่งผลต่อกำไรของตำแหน่งอย่างมาก โดยเฉพาะในตลาดที่ผันผวน พยายามเปิดตำแหน่งทันทีหลังจากช่วง Funding ใหม่เริ่มต้น และปิดตำแหน่งก่อนถึงรอบเก็บ Funding Fee ครั้งต่อไป
  • อย่าถือการเทรดข้ามคืน:ตลาดคริปโตมีความผันผวนสูง และความเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงของตลาดอาจเกิดขึ้นในช่วงกลางคืนเมื่อคุณไม่ได้เฝ้าดู—ซึ่งอาจทำให้ขาดทุนอย่างมาก คุณควรปิดตำแหน่งทุกครั้งก่อนเลิกเทรดในแต่ละวัน

วิธีเทรดฟิวเจอร์คริปโต


พร้อมที่จะลองเทรดฟิวเจอร์คริปโตแล้วหรือยัง? เราจะแนะนำวิธีเทรดฟิวเจอร์คริปโตกับแพลตฟอร์มฟิวเจอร์อันดับหนึ่งของเราอย่าง PrimeXBT

ขั้นตอนที่ 1: สมัครใช้งาน PrimeXBT

เข้าไปที่ PrimeXBT และคลิก ‘Open Account’ จากนั้น กรอกอีเมลและรหัสผ่านและยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเว็บไซต์

Open a PrimeXBT Account

ขั้นตอนที่ 2: ยืนยันบัญชีของคุณ

แพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์ต้องการให้คุณยืนยันตัวตนเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับด้านการต่อต้านการฟอกเงิน คุณต้องให้ชื่อเต็ม วันเดือนปีเกิด หมายเลขประกันสังคม และที่อยู่ของคุณ นอกจากนี้ คุณยังต้องอัปโหลดสำเนาใบขับขี่หรือหนังสือเดินทางด้วย

ขั้นตอนที่ 3: ฝากเงิน

ในแดชบอร์ดบัญชี PrimeXBT ใหม่ของคุณ คลิกที่ ‘ฝากเงิน’ คุณสามารถฝากเงินด้วย BTC, ETH, USDT หรือ USDC หรือคุณสามารถซื้อคริปโตโดยใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือการโอนเงินผ่านธนาคาร คริปโตที่ซื้อจะถูกฝากเข้าบัญชีของคุณทันที


ขั้นตอนที่ 4: ทำการเทรดครั้งแรก

ที่ด้านบนของแดชบอร์ดบัญชี PrimeXBT คลิกที่ ‘Trade’ จากนั้นคลิก ‘Crypto Futures’ เลือกสินทรัพย์คริปโตที่คุณต้องการเทรดเพื่อดูรายการสัญญาที่มีอยู่ เลือกสัญญาที่คุณต้องการซื้อและคลิก ‘Buy’ หรือ ‘Sell’ เหนือกราฟราคา

เทรดฟิวเจอร์คริปโตที่ PrimeXBT

ป้อนจำนวนที่คุณต้องการเทรด เลือก Leverage (เลเวอเรจ คือ อัตราทวีคูณของเงินลงทุนที่คุณต้องการใช้) และเลือกประเภทคำสั่งซื้อ เมื่อพร้อมแล้ว คลิก ‘Send Order’ เพื่อเข้าสู่การเทรดของคุณ

บทสรุป


การเทรดฟิวเจอร์คริปโตเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในตลาดคริปโต เพราะให้เลเวอเรจสูงกว่า มีความยืดหยุ่นในกลยุทธ์การเทรด และมีเครื่องมือจัดการความเสี่ยงที่ดีกว่าการซื้อขายคริปโตแบบ Spot โดยตรง

เราพิจารณาแล้วว่า PrimeXBT เป็นแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตที่ดีที่สุดโดยรวมสำหรับใช้งานในปี 2025 เนื่องจากมีค่าธรรมเนียมการเทรดที่ต่ำมาก พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพสูง

เยี่ยมชม PrimeXBT

คำถามที่พบบ่อย


คริปโตที่นิยมใช้ในการเทรดฟิวเจอร์มีอะไรบ้าง?

เราสามารถเทรดฟิวเจอร์คริปโตในสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่?

เทรดฟิวเจอร์ คืออะไร และสามารถทำกำไรได้หรือไม่?

ฟิวเจอร์คริปโตดีกว่าการซื้อคริปโตโดยตรงหรือไม่?

แพลตฟอร์มใดที่ดีที่สุดในการเทรดฟิวเจอร์คริปโต?

เราสามารถถือครองฟิวเจอร์คริปโตได้นานแค่ไหน?

การเทรดฟิวเจอร์คริปโตปลอดภัยหรือไม่?

แหล่งอ้างอิง